Beameo
ทำ on-page SEO ให้แบรนด์จักรยานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มการรับรู้และ traffic สู่เว็บไซต์
Beameo เป็นแบรนด์จักรยานไฟฟ้าจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่เกิดขึ้นจากธุรกิจเล็กๆ ของครอบครัวซึ่งหลงใหลในการขี่จักรยาน และไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงแค่พาหนะ แต่ยังเป็นตัวช่วยในการหลีกหนีจากการจราจรติดขัด และใช้สำหรับปั่นเล่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
ภาพรวม
Beameo เพิ่งสร้างธุรกิจและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของแบรนด์ขึ้นมาใหม่ โดยจุดเด่นของโปรดักต์พวกเขาคือจักรยานไฟฟ้า หรือ e-bike ที่นอกจากเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่ายานพาหนะชนิดอื่นๆ บนท้องถนนแล้ว ยังมีดีไซน์สวยงามน่าครอบครองอีกด้วย
พวกเขาจึงต้องการให้เราเข้ามาช่วยผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักด้วยการเพิ่ม traffic และปรับปรุงประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ทำงานได้ดีขึ้น เพื่อให้ที่สุดแล้วสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า
โซลูชันของเรา
การที่เว็บไซต์ของ Beameo จะเป็นที่รู้จักได้ต้องเริ่มจากโครงสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะสม เราจึงนำเสนอโซลูชัน on-page SEO optimization ให้ลูกค้า เสริมด้วยบริการเขียนคอนเทนต์ เพื่อปรับปรุงด้าน SEO แบบครบวงจร
เริ่มตั้งแต่การทำ keyword research แล้วเติมคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมลงในแต่ละหน้าเพื่อปรับปรุงคอนเทนต์, แก้ไขไฟล์ robots.txt เพื่อบอกให้ search engine รู้ว่าหน้าไหนมีความสำคัญที่ต้อง index และ xml sitemap ไหนที่ควรนำมาใช้อ้างอิง, ปรับปรุง sitemap เพื่อใส่ URL ทั้งหมดที่ต้องใช้งานลงไป ซึ่งในแง่ของการจัดลำดับความสำคัญในการ crawl สิ่งนี้จะช่วยให้ bot สามารถหาข้อมูลเจอได้ง่ายขึ้น และทำให้หน้าที่ต้องการได้ index บน Google รวมถึง search engine อื่นๆ อย่างครบถ้วน, และปรับลดขนาดไฟล์รูปกับวิดีโอ
ผลลัพธ์ที่สำคัญ
Organic click เพิ่มขึ้น 87% ใน 3 เดือนแรก
หลังจากเว็บไซต์ได้รับการปรับปรุง ช่วงท้ายของโปรเจกต์ ในเดือน กรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2566 มียอด organic click เพิ่มขึ้นถึง 87%
ได้ CTR 6% จาก 2.9%
ค่า Click-through rate เฉลี่ยอยู่ที่ 6% ซึ่งถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ใหม่ของแบรนด์ล่าสุดที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด
ติด featured snippet บน Google
Targeted keyword “do bicycles need insurance” มีผลการค้นหาเยอะจนติดอันดับ 0 และได้ featured snippet ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งช่วยเพิ่ม CTR ให้กับเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี



กระบวนการทำงานของเรา
SEO audit → Keyword research → Competitor analysis → On-page SEO optimization → Content writing
เราเริ่มจากการทำ SEO audit เพื่อตรวจสอบเว็บไซต์ที่พวกเขาเพิ่งสร้างขึ้นมาก่อนว่ามีโครงสร้างที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้ search engine สามารถ crawl บนโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังรู้ลำดับชั้นของคอนเทนต์ที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดเรียง HTML tag ที่สำคัญอย่าง <title>, <p>, และ <h1> ถึง <h3> ในแต่ละหน้าใหม่

จากนั้นจึงต่อด้วยการทำ keyword research และ competitor analysis แล้วทำความเข้าใจ search intent ของกลุ่มเป้าหมายที่น่าจะ convert มาเป็นลูกค้าได้ เพื่อค้นหา targeted keyword ที่เหมาะสมแก่การนำไปใช้กับแบรนด์ โดยเฉพาะที่เป็น long-tail keyword ซึ่งมีโอกาสติดอันดับดีๆ บน Google เนื่องจากมีความเฉพาะเจาะจงและมี keyword difficulty ที่ต่ำกว่า
เมื่อคีย์เวิร์ดพร้อมก็ลงมือทำ on-page SEO optimization เรามีการปรับแก้คอนเทนต์ใน content editor ของ Wix ซึ่งเป็น CMS ที่ Beameo เลือกใช้ ตั้งแต่การเติมคีย์เวิร์ดที่หาได้มาลงไปในหน้า landing page ที่ต้องการ, ปรับความยาวของ title tag ให้กระชับขึ้น ไม่เกิน 60 ตัวอักษร และ meta description ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการทำ SEO เนื่องจาก search engine อย่าง Google ชอบเพราะสามารถแสดงผลได้ครบถ้วน พร้อมทั้งปรับข้อความให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายอยากคลิกจากผลการค้นหา ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้ traffic จาก organic click มากขึ้น, รวมถึงเขียนบทความเพิ่มขึ้นมาเสริม เพื่อให้เว็บไซต์มีคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายสนใจและมอบประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งยังส่งผลดีต่อคะแนน SEO ไปในตัว
เนื่องจากผู้ชมที่อ่านคอนเทนต์จะใช้เวลาบนแต่ละหน้านานอย่างน้อยเกิน 1 นาทีโดยเฉลี่ย ซึ่งส่งผลให้ bounce rate และ exit rate ลดลง และนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ search engine อย่าง Google ที่จะใช้ประเมินประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ได้รับจากเว็บของ Beameo

นอกจากนี้ เรายังทำการตรวจสอบทุกหน้าของเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องว่าได้รับการ index โดย Google เรียบร้อยแล้วหรือไม่ และทำการส่งคำขอ index แบบแมนวลหากจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มเป้าหมายสามารถหาคอนเทนต์ในแต่ละหน้าเว็บไซต์ของลูกค้าเจอจากหน้าผลการค้นหาของ search engine
ความท้าทายที่เราเอาชนะมาได้
1. แบรนด์น้องใหม่
ด้วยความที่ Beameo เป็นแบรนด์จักรยานใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก คนทั่วไปจึงยังไม่เคยเข้าไปในเว็บไซต์ของพวกเขา มีเพียงทีมเล็กๆ ช่วยกันปลุกปั้นธุรกิจขึ้นมา และเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องของจักรยาน จึงยังไม่รู้วิธีการปรับเว็บไซต์ให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เราจึงต้องช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จ หนึ่งในวิธีที่ช่วยได้โดยตรงคือการสร้าง backlink ที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ free directory ในอังกฤษถึง 16 แห่ง ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและสอดคล้องกับธุรกิจของ Beameo
2. ตลาดเฉพาะที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
จักรยานไฟฟ้าเป็นสินค้าในตลาดที่ niche พอสมควร จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะสร้าง traffic ให้มีคนมาเข้าชมเว็บไซต์ของลูกค้าได้มากๆ หรือทำให้คนที่ไม่เคยขี่จักรยานไฟฟ้ามาก่อนจะหันมาให้ความสนใจ นอกจากนั้นประเทศอังกฤษยังออกกฎหมายที่บังคับให้ผู้ที่ขับจักรยานไฟฟ้าทุกคนต้องมีใบขับขี่
เราจึงต้องพิถีพิถันในการคัดเลือก targeted keyword มาใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่เป็นบทความและหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์นั้นมีคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม เช่น
สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่คนอังกฤษต่างสงสัยเกี่ยวกับจักรยานไฟฟ้า และค้นหาใน google.co.uk
ซึ่งเราก็เลือกได้อย่างเหมาะสม เพราะสามารถทำให้บางหน้าที่เป็นบทความเสริมความรู้ของแบรนด์นั้นติดหน้าแรก Google แบบ featured snippet ได้ และทำให้กลุ่มเป้าหมายหาเว็บไซต์นี้เจอง่ายขึ้น

3. ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
เว็บไซต์ที่เพิ่งสร้างเสร็จของพวกเขานั้นยังมีปัญหาทั้งโครงสร้างที่ไม่ถูกต้องในเชิง SEO รวมถึงปัญหาการโหลดหน้าเว็บที่ใช้เวลานาน โดยเฉพาะบนมือถือ พวกเราจึงต้องตรวจสอบแต่ละหน้าอย่างละเอียดเพื่อหาจุดบกพร่องแล้วทำการแก้ไขให้ดีขึ้น
เริ่มตั้งแต่การแก้ไข sitemap และไฟล์ robots.txt เพื่อให้ search engine สามารถ crawl หาคอนเทนต์ที่ต้องการเจอได้อย่างรวดเร็ว และ index หน้าเว็บที่ต้องการได้ครบถ้วน
เราปรับ heading เดิมในคอนเทนต์ให้เรียง <h1>, <h2>, <h3> อย่างเหมาะสม และลบ <h3>บางส่วนที่ซ้ำซ้อนออกจากคอนเทนต์
จากนั้นปรับลดขนาดไฟล์รูปภาพและวิดีโอที่กินทรัพยากรของเว็บไซต์มากเกินไปด้วยการใช้เครื่องมือเฉพาะในการบีบอัดให้ไฟล์ให้เล็กลงโดยไม่กระทบต่อความคมชัด และทำให้กระบวนการนี้มีความราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยสามารถบีบอัดไฟล์ background video ที่ฝังอยู่ในหน้าเว็บจากขนาด 9 MB ให้เหลือเพียง 900 kb เท่านั้น
ซึ่งทำให้เราต้องอัปโหลดไฟล์รูปและวิดีโอกว่า 50 ไฟล์ขึ้นไปบนเว็บไซต์ใหม่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานแล้ว ยังส่งผลต่อ SEO อีกด้วย เพราะสอดคล้องกับข้อกำหนด mobile-first ของ Google
ก่อนเริ่มโปรเจกต์ | หลังจบโปรเจกต์ |