Matara Pearl
ทำ targeted ads เพื่อดึงดูดลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
Matara Pearl คือแบรนด์เครื่องประดับมุกสุดหรูที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งได้วางขายสินค้าในร้านขายเครื่องประดับชั้นนำทั่วโลก แบรนด์ดังกล่าวเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำทั้งไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยงมาออกแบบเป็นเครื่องประดับที่สวยงามและไม่เหมือนใคร เพื่อหวังตีตลาดคนรุ่นใหม่ด้วยความงามที่ไม่เคยตกยุคของไข่มุก
ภาพรวม
แบรนด์เครื่องประดับระดับไฮเอนด์อย่าง Matara มียอดขายส่วนใหญ่มาจากการทำการตลาดออฟไลน์มาจนถึงปี พ.ศ. 2563 แต่เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้พวกเขาต้องการเพิ่ม conversion rate บนเว็บไซต์และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้มากขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายเล็กๆ ที่มีอยู่เดิม
แนวทางของเรา
เนื่องจากเอเจนซีเดิมของ Matara สร้างเพียงยอดคลิกแต่ไม่เกิด conversion หลังจากที่เราวิเคราะห์คู่แข่งของพวกเขา พร้อมกับทำ keyword reserach และปรับเปลี่ยนโฆษณาบน Google Ads ทุกๆ 3 วันแล้ว แคมเปญที่เราทำจึงช่วยเพิ่มยอด conversion ให้พวกเขาได้ถึงสองเท่าภายในระยะเวลาเพียงสองเดือน
conversion เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ยอด conversion เพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในเวลาเพียง 2 เดือน
traffic บนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ต้นทุนต่อ conversion ลดลง 80%
เพิ่ม ROI ได้เต็มที่ด้วยการลดต้นทุนต่อ conversion ลง
กระบวนการทำงาน
เราเริ่มต้นเหมือนกับที่ทำให้ลูกค้ารายอื่นๆ โดยเริ่มจากการค้นคว้าเพื่อทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจของ Matara รวมถึงเป้าหมายของโปรเจกต์ ปัญหาของพวกเขา และพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เมื่อเข้าใจประเด็นเหล่านี้แล้ว เราจึงสามารถออกแบบแคมเปญที่สามารถสร้างผลลัพธ์อันน่าประทับใจได้มากที่สุดภายใต้งบประมาณที่มี
ซึ่งในกรณีนี้ Matara ต้องการให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์กลายมาเป็นลูกค้าของพวกเขา นั่นหมายความว่านอกจากจะมีการลงโฆษณาทางออนไลน์แล้ว ในแผนงานของเราก็ยังได้นำเสนอเพิ่มเติมในส่วนของการวิเคราะห์คู่แข่ง การทำ keyword research และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญ เข้าไปด้วย
นอกเหนือจากบริการให้คำปรึกษาอื่นๆ ที่เราได้ทำให้กับ Matara ก็ยังค้นพบอีกว่าเว็บโฮสติงที่พวกเขาใช้งานอยู่ในตอนนั้นมีปัญหาด้านประสิทธิภาพ เราจึงเสนอแนะให้มีการอัปเกรดระบบที่จะช่วยเพิ่ม conversion ให้กับพวกเขาได้

อุปสรรคที่เราเอาชนะได้
Matara ได้วางตำแหน่งทางการตลาดของตัวเองไว้ที่การเป็นแบรนด์หรู จึงเท่ากับว่ามีตลาดที่จำกัดในไทย เมื่อบวกกับความจริงที่ว่าเครื่องประดับระดับไฮเอนด์นั้นมักวางขายที่หน้าร้านที่ลูกค้าสามารถหยิบมาลองใส่ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Matara ต้องการขยายฐานลูกค้าและกระตุ้นให้กลุ่มผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อคุ้นเคยกับแบรนด์ด้วยช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้เลยทันที หรือเลือกมาลองสินค้าที่หน้าร้านก็ได้เช่นกัน
เนื่องจากเอเจนซีเดิมของ Matara นั้นไม่สามารถส่งต่อข้อมูลให้เราได้ เราจึงต้องรวบรวมทุกอย่างเองตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้เราต้องใช้เวลาในการทำงานนานขึ้น และด้วยงบประมาณที่จำกัดของ Matara จึงทำให้เราต้องวางกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบและพิจารณาว่าควรจะโฟกัสที่เรื่องอะไรบ้าง
ทำความเข้าใจภาพรวม
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาของเราสร้าง framework ขึ้นมาอันหนึ่งที่ใช้สำหรับการลงโฆษณาของ Matara เพื่อให้มั่นใจว่าโฆษณาที่ลงไปจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งเราทำไปพร้อมกับการวิเคราะห์โฆษณาของคู่แข่ง เพื่อดูว่าโฆษณาชิ้นไหนประสบความสำเร็จ แล้วนำข้อมูลมาปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับภาพลักษณ์และความเป็นแบรนด์ Matara เพื่อที่จะเอาชนะตลาดเครื่องประดับหรูให้ได้ และเราก็ทำ keyword research จนกระทั่งได้เนื้อหาโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราจึงนำโซลูชันมากมายที่คิดออกไปทำ A/B testing ในช่วง 3 เดือนแรกเพื่อค้นหาว่าโซลูชันใดคือทางออกที่เหมาะสมที่สุด หลังจากที่เราติดตามผลของแคมเปญโฆษณาทุกๆ 3 วัน โดยปรับช่วงเวลา คอนเทนต์ และผู้ชม ตามประสิทธิภาพที่แสดงผ่านชุดข้อมูล เราจึงสามารถลดค่าใช้จ่ายต่อ conversion ของ Matara ได้ถึง 80% หมายความว่าพวกเขาเสียเงินไปกับงบโฆษณาน้อยลงแต่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมและสามารถหาลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเอง
ลำดับเฉลี่ยของโฆษณาเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

ผลลัพธ์
ในช่วงที่เราทำแคมเปญให้ Matara จำนวน conversion และ traffic บนเว็บไซต์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และแคมเปญ shopping ads บน Google Ads ก็เพิ่มยอด reach ออนไลน์ให้พวกเขาได้เป็นจำนวนมาก โดยรวมแล้ว Matara ได้ conversion มามากถึง 333 ครั้ง ซึ่งถือว่าน่าประทับใจสำหรับแบรนด์เครื่องประดับมุกที่ขายเครื่องประดับหรูและมีความ niche อยู่พอสมควร