บริการสัมภาษณ์ UX Stakeholder
มาร่วมมือออกแบบ digital product กันเถอะ!
บริการครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อคุณ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญของเราคอยดูแล และสามารถจัดทีมงานเฉพาะกิจเพื่อเพิ่มกำลังคนให้คุณได้หากต้องการ
หรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่คุณกำลังจะทำได้ที่ โทร.
0 2026 3292
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างคืออะไร
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง (stakeholder interview) คือ ส่วนหนึ่งของการทำวิจัย ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนไอเดียที่แตกต่างกันของกลุ่มคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียของโปรเจกต์
หลักการของการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลในขั้นตอนแรกๆ มักมีการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มตัวอย่างที่เราเลือกจะสามารถแสดงความคิดเห็นและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้กับทีมนักออกแบบและ developer ของเราได้
ใครคือกลุ่มตัวอย่างที่เราควรเลือก
กลุ่มตัวอย่าง คือ คนที่สามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ควรเลือกมักเป็นเหล่าพนักงานของบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง นอกจากนี้ เราก็สามารถสัมภาษณ์กลุ่มคนที่เป็นบุคคลภายนอกบริษัทได้อีกด้วย เช่น ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้
การจัดเก็บข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการวิเคราะห์บทสัมภาษณ์ที่มาจากหลากหลายความเห็นนั้นช่วยให้ทีมของเรารู้วิธีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้มากขึ้นได้
ทำไมกลุ่มตัวอย่างถึงมีความสำคัญกับธุรกิจของคุณ
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างช่วยให้ทีมนักออกแบบ UX วางแผนการออกแบบผลิตภัณฑ์ดิจิทัลได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ด้วย 3 ขั้นตอนนี้
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของคุณ
วิจัยในระดับอุตสาหกรรม
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างช่วยให้ทีม UX เข้าใจธุรกิจ และอุตสาหกรรม ตลอดจนสามารถเข้าใจวัตถุประสงค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของคุณได้มากขึ้น
ความต้องการของผู้ใช้และผู้ให้บริการ
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างกับผู้ใช้และผู้ให้บริการโดยตรงสามารถช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลได้มากขึ้น เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นในระยะยาว
ฟีเจอร์ผลิตภัณฑ์
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจากผู้ใช้งานช่วยให้เราพัฒนาฟีเจอร์สำคัญๆ ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในงบประมาณที่มีจำกัด
ลองคิดดูว่า ถ้าหากเราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างนั้นป็นส่วนสำคัญในการปัดฝุ่นแบรนด์ของคุณให้ใหม่เอี่ยม เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่และมีอายุน้อยกว่าเดิม ซึ่งหมายความว่า การนำข้อมูลที่ได้จากการวิจัยมาใช้ในการออกแบบโฟลว์และ layout ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ที่สำคัญต่อการจับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้แม้มีงบจำกัดให้สำเร็จ
นอกจากนี้ การนำข้อมูลที่ได้จากการวิจัยมาปรับใช้ในขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์จะช่วยให้เราแน่ใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ทั้งในด้าน UX design และด้านการพัฒนาเชิงเทคนิค
2. ถามคำถามเดียวกันกับกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลาย
สำหรับข้อที่ 2 การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อได้ข้อมูลที่หลากหลายจากกลุ่มตัวอย่างที่มีความคิดเห็นต่างกัน เช่น หัวหน้าแผนกไอทีและหัวหน้าแผนกการตลาดอาจต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างครบถ้วน
หัวหน้าแผนกไอทีอาจต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีแพลตฟอร์ม backend ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้การทำงานภายในองค์กรเป็นไปได้อย่างราบรื่น
ขณะเดียวกัน หัวหน้าแผนกการตลาดอาจกำลังอยากได้โปรดักที่มีแพลตฟอร์ม frontend ด้านการตลาดที่สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
สรุปแล้ว การเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันสามารถช่วยแก้ปัญหาความต้องการที่มีความซับซ้อนในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถทำได้ง่ายขึ้น ตลอดจนสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้ในระยะยาว
ดังนั้น การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรได้รับข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่มีความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์แตกต่างกันบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยทีม UX design และทีม development ของเรา
3. ช่วยระบุและตรวจสอบข้อเท็จจริงได้
เรามักได้ข้อเท็จจริงในด้าน Unique Selling Points (USP) เกี่ยวกับธุรกิจของคุณจากกลุ่มตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ใช้จริงเป็นใครและคาดหวังอะไรจากผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งเรามีจุดประสงค์ที่จะสิ่งเหล่านี้ในขั้นตอนดังกล่าว จึงทำให้เราสามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อนจากการทำวิจัยคู่แข่งทางธุรกิจ ซึ่งมีประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลให้ลูกค้าของเรา หรือแม้กระทั่งเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดให้กับลูกค้าได้สำเร็จ ตลอดจนช่วยให้เรารู้ความคาดหวังของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้นได้จริง
เมื่อจบขั้นตอนเหล่านี้ เราจะได้ผลวิจัยที่มีข้อมูลที่มีข้อเท็จจริงมารองรับ ทำให้เรามั่นใจว่าเราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าเราได้อย่างแท้จริง
4. ลดความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด
ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลส่วนใหญ่อาจมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับหลายๆ กลุ่มตัวอย่างบ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งที่ได้จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่บุคคลในบริษัท ก็คือการได้รู้ว่าภาพลักษณ์แบรนด์ของบริษัทนั้นยังมีข้อบ่กพร่องอยู่บ้าง
เมื่อได้ข้อมูลเชิงลึกในขั้นแรกจากกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่บุคคลในบริษัทแล้ว คุณจะได้รู้ว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาอยู่มีข้อจำกัด หรือมีอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนการเปิดตัวได้บ้าง เช่น หลายธุรกิจเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่พวกเขาไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มได้ หลังจากเจอผลตอบรับแย่ๆ บนโซเชียลมีเดีย
สรุปได้ว่า การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างสามารถช่วยลดความเสี่ยงกับข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดได้ เพราะเราจะรู้ก่อนว่าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลายได้หรือไม่ ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างหลายๆ กลุ่ม
คำถามที่ใช้บ่อยๆ ในการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างมีอะไรบ้าง
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างนั้นจะมีการเตรียมคำถามไว้ล่วงหน้าบางส่วน โดยเป็นคำถามแบบปลายเปิด เพื่อให้เกิดการหารือกันในรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างคำถามที่ใช้บ่อย
คุณและทีมงานนิยาม “ความสำเร็จ” ไว้อย่างไร
การถามกลุ่มตัวอย่างในเรื่องนี้จะทำให้เรามองเห็นเป้าหมายชัดเจนขึ้นว่ากำลังก้าวไปในทิศทางไหน และทำให้เราสามารถพูดคุยถึงสถานการณ์ปัจจุบันของโปรเจกต์ได้ง่ายขึ้น รู้ว่าต้องทำอะไรต่อถึงจะช่วยปรับปรุงขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้
คุณคิดว่าอุปสรรคสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนี้คืออะไร
คำถามนี้จะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในโปรเจกต์นี้ และยังรู้ว่ามีทรัพยากรส่วนไหนที่จำเป็นต้องเติมเพื่อให้โปรเจกต์สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
การทำงานกับดิจิทัลเอเจนซีนั้นอาจเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ การสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับอุปสรรคที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นนั้นจะช่วยให้เราจัดการกับขอบเขตของโปรเจกต์และวางมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคเหล่านี้ได้ในอนาคต
คุณคิดว่าจะดำเนินการโปรเจกต์นี้ต่างจากที่เป็นอยู่อย่างไร
การถามคำถามนี้จะทำให้กลุ่มตัวอย่างรู้สึกว่ามีอำนาจบางอย่างในการคุมโปรเจกต์ ซึ่งความคิดเห็นของพวกเขาจะช่วยให้เรารู้มากขึ้นว่ามีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอะไรหรือปรับปรุงตรงจุดไหนได้บ้าง
คุณกังวลเรื่องอะไรเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้บ้างหลังจากที่จบโปรเจกต์แล้ว
นี่คือโอกาสที่ดีเยี่ยมในการปรึกษาหารือกันว่าควรจะดูแลโปรเจกต์อย่างไรในระยะยาว เพราะหัวใจสำคัญของการสร้างความสำเร็จให้กับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลในระยะยาวคือการดูแลที่ถูกต้อง การได้พูดคุยกับทีมงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดูแลได้ง่ายขึ้นในระยะยาว
ช่วงสุดท้าย คำถามเกี่ยวกับคุณค่าของโปรเจกต์
อย่าลืมว่าการสอบถามกลุ่มตัวอย่างนั้นต้องทำให้เราได้รู้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
จุดประสงค์ของโปรเจกต์
pain point ของผู้ใช้
technical และ functional requirements ของโปรเจกต์
เป้าหมายและความคาดหวังของลูกค้า
กลยุทธ์ในระยะยาวของผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง
ในขั้นตอนนี้ เรากำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโปรเจกต์ในการทำวิจัยบทสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขดีไซน์งานที่ไม่จำเป็นและอาจทำให้เราส่งมอบผลิตภัณฑ์ล่าช้า ด้วยขั้นตอนการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง ดังนี้
ตั้งเป้าหมายว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน
การตั้งเป้าหมายเป็นหนึ่งในขั้นตอนแรกๆ ที่มีไว้เพื่อกำหนดผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างช่วยให้เรากำหนดวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลได้
นอกจากนี้ การสัมภาษณ์ยังช่วยให้เราสามารถระบุข้อจำกัดในการใช้งานผลิตภัณฑ์ เพื่อหาวิธีแก้ไขในขั้นตอนต่อไปได้อย่างตรงจุด เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังพัฒนาโปรดักส์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
ที่มอร์โฟซิส เราสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นวิธีที่ลดความเสี่ยงที่อาจสื่อสารผิดพลาดได้ โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราวิเคราะห์และค้นพบข้อมูลสำคัญใหม่ๆ ระหว่างดำเนินการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์
ทีม UX/UI design ของเราทราบดีว่าการสื่อสารผิดพลาดสามารถส่งผลกระทบกับโปรเจกต์ได้ง่ายและนำไปสู่ปัญหาที่อาจตามมาหลังจากที่ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ เราจึงควบคุมการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างให้มีความโปร่งใสมากที่สุดก่อนที่จะเริ่มออกแบบงาน
Agile
เราใช้ Agile ในกระบวนการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เพื่อให้พวกเขาให้พูดสิ่งที่คิดได้อย่างอิสระ และยังช่วยให้เราทราบข้อมูลที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย
กระบวนการทำงานแบบ Agile ของเราถูกออกแบบและพัฒนาขึ้น ซึ่งช่วยให้เราทดสอบและตรวจสอบ เพื่อใช้ในการตัดสินใจก่อนออกแบบผลิตภัณฑ์ได้อย่างโปร่งใส จึงทำให้ลูกค้าพอใจที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมระหว่างให้สัมภาษณ์ได้อย่างสบายใจ
6 ขั้นตอนในการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง
ความสำคัญของกระบวนการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างอาจถูกมองข้ามไป แต่การสัมภาษณ์อย่างละเอียดจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
ตั้งเป้าหมายเกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่างให้ชัดเจน
ร่างแบบตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจง่ายขึ้น
ระบุข้อสงสัยเกี่ยวกับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ต้น
และอื่นๆ อีกมากมาย
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สูงสุดจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เราจึงพัฒนา 6 ขั้นตอนที่จะช่วยให้เราแน่ใจว่า ข้อมูลที่ได้มาในช่วงแรกของการดำเนินโปรเจกต์นั้นเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์จริงๆ
ระบุกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการสัมภาษณ์
ควรระบุว่าต้องการกลุ่มตัวอย่างแบบไหนตั้งแต่ขั้นตอนที่หนึ่งของการดำเนินงาน เพราะแต่ละโปรเจกต์มีกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงปรับคำถามในการสัมภาษณ์ตามความเหมาะสม
ตั้งเป้าหมายในการทำวิจัย
เริ่มต้นกระบวนการวิจัยด้วยการตั้งเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจง เพื่อใช้กับกลุ่มเป้าหมายที่แต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม ซึ่งการตั้งเป้าหมายสามารถช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่า สิ่งที่เราจะถามไปนั้นมีความเกี่ยวข้องและเป็นคำถามที่มีประสิทธิภาพกับกลุ่มตัวอย่างที่เลือกมากแค่ไหน
หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการทำวิจัยกลุ่มตัวอย่างด้วยการสัมภาษณ์ คือ การที่เราสามารถระบุแรงจูงใจ ความต้องการ ความปรารถนา และข้อจำกัดต่างๆ ของกลุ่มตัวอย่างได้
ดังนั้น ถ้าเราสัมภาษณ์หัวหน้าแผนกการตลาด เราจะสามารถดำเนินการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เพื่อให้ทราบถึงจุดประสงค์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล รวมถึง กลุ่มผู้ใช้เป้าหมายในอุดมคติ ความต้องการเชิงธุรกิจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ
ตั้ง timeline และงบประมาณ
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างนั้นก็คล้ายกับขั้นตอนอื่นๆ ของการออกแบบ UX/UI อย่างเช่น UX prototyping และ user testing ตรงที่อาจไม่มีการตั้ง timeline หรืองบประมาณที่ชัดเจน
ดังนั้นทีม UX/UI ของมอร์โฟซิสจึงตั้ง timeline และงบประมาณให้ชัดเจนสำหรับการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างอยู่เสมอ ซึ่งจะดูรายละเอียดตั้งแต่ timeline ในการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละคน จัดแจงนัดหมายล่วงหน้า และคำนวณงบประมาณที่ต้องใช้ทั้งหมด
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เราแน่ใจว่าการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้จริง
กำหนดรายการคำถามสำหรับสัมภาษณ์
เมื่อเรารู้ timeline และงบประมาณที่ต้องใช้แล้ว ทีมงานของเราก็จะเริ่มกำหนดรายการคำถามที่จะใช้กับกลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่ม โดยเราจะวางกรอบการตั้งคำถามดังต่อไปนี้
จุดมุ่งหมาย
ทำไมถึงทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา
เป้าหมายสำคัญที่สุดคืออะไร
ความสำเร็จของโปรเจกต์นี้ควรเป็นแบบไหน
จะติดตามผลอย่างไร
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร
กลุ่มเป้าหมายต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างในการซื้อผลิตภัณฑ์
มีข้อมูลเชิงลึกอะไรบ้างที่ได้จากการร่วมงานกับ vendor ก่อนหน้านี้
มีเรื่องอะไรที่ไม่รู้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายบ้าง
กระบวนการทำงาน
สิ่งที่กังวลเกี่ยวกับกระบวนการทำงานในโปรเจกต์นี้คืออะไร
สิ่งที่กังวลหลังจากโปรเจกต์นี้จบลง
สิ่งที่น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุด
จะบริหารงานให้แตกต่างออกไปอย่างไร
เรื่องเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับโปรเจกต์
requirement หลักของโปรเจกต์คืออะไร
มีเรื่องอะไรที่อยากจะเน้นย้ำบ้าง
จำเป็นต้องทำอะไรบ้างเพื่อเน้นย้ำเรื่องที่ว่ามา
ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่างแต่ละคน
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร
จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของคุณคืออะไร
บทเรียนล้ำค่าที่สุดในการทำงานของคุณคืออะไร
ส่งคำถามให้กลุ่มตัวอย่างอ่านล่วงหน้า
สิ่งสำคัญอันดับต่อไปคือ เราต้องส่งคำถามให้กลุ่มตัวอย่างได้อ่านล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวตอบคำถามเหล่านั้นก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์จริง ซึ่งจะทำให้ได้ผลการสัมภาษณ์ที่ดีและได้รับรู้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าจริงๆ
จัดการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ผล
เมื่อเตรียมงานทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลาสัมภาษณ์จริงแล้ว โดยจะมีการบันทึกวิดีโอและจดบันทึกข้อความแบบเรียลไทม์ เพื่อให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ต่อไปได้
ในช่วงการวิเคราะห์ข้อมูล เราจะรวบรวมข้อมูลเป็นรายงานหนึ่งฉบับโดยเน้นในประเด็นต่อไปนี้
ปัญหา
แรงจูงใจ
จุดเด่นเหนือคู่แข่ง
ทางแก้ไขปัญหา และทางเลือก
อื่นๆ
วิธีการวางรูปแบบการสัมภาษณ์ของเรา
การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างของเรานั้นมีความสำคัญต่อการพัฒนาโปรเจกต์มาก แม้ว่าแต่ละโปรเจกต์จะแตกต่างกันไป แต่การมีรูปแบบการสัมภาษณ์ที่ชัดเจนคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและงบประมาณที่ต้องใช้ได้
เริ่มการสัมภาษณ์ด้วยการละลายพฤติกรรมก่อน
การละลายพฤติกรรมก่อนสัมภาษณ์จะช่วยให้กลุ่มตัวอย่างรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์มากขึ้น โดยอาจเริ่มจากการถามว่าพวกเขาเดินทางมายังสถานที่สัมภาษณ์อย่างไร หรือขอบคุณที่เขาอุตส่าห์สละเวลามาให้สัมภาษณ์ เป็นต้น
พูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส
เราจะพยายามพูดคุยกับกลุ่มตัวอย่างด้วยความตรงไปตรงมาและโปร่งใสให้มากที่สุด ซึ่งการเตรียมตัวมาก่อนจากขั้นตอนที่กล่าวมาจะทำให้เราโฟกัสกับการสัมภาษณ์และรวบรวมข้อมูลจากการพูดคุยได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น การเตรียมคำถามล่วงหน้าจะช่วยให้เรารู้ว่าเรามีวิสัยทัศน์ที่ตรงกันกับกลุ่มตัวอย่างหรือไม่ เราตกหล่นรายละเอียดอะไรที่สำคัญเกี่ยวกับ technical requirement ไปหรือเปล่า หรือเราวางงบประมาณที่ต้องใช้ในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง เป็นต้น
เปิดใจและรับฟัง
การสัมภาษณ์ต้องตั้งใจฟังสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างพูดอย่างเต็มที่ และจดบันทึกความคิดเห็นของพวกเขาอย่างละเอียดเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไป
เราจะไม่สัมภาษณ์อย่างรีบเร่งเพื่อกดดันผู้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพราะการเร่งรีบจะยิ่งทำให้ผู้ให้สัมภาษณ์ไม่สามารถตกผลึกก่อนตอบคำถามได้ หรือขาดความแม่นยำ หากเราจำเป็นต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการให้ชี้แจง เราอาจต้องจัดการสัมภาษณ์อีกรอบเพื่อให้เข้าใจอย่างชัดเจน
ติดต่อทีมงานออกแบบ UX/UI ของเรา
ที่มอร์โฟซิส เราเชื่อมั่นว่าการค้นคว้าข้อมูลคือส่วนสำคัญในการทำ digital transformation เราคือทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน UX ที่ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่พร้อมขยายการเติบโตได้ให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มากมายในเอเชีย และเราก็ช่วยคุณได้เช่นกัน
สไตล์การออกแบบอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่การสื่อสารด้วยดีไซน์อย่างทรงพลังคือสิ่งที่เราเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
เรารู้ว่าการออกแบบ UX/UI ที่ดีสามารถเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจได้มากมาย และเราก็จะทดสอบจนแน่ใจว่าโซลูชันที่เราออกแบบให้ลูกค้านั้นเข้าใจง่าย ใช้งานได้สะดวก และมีความยืดหยุ่นจริงๆ ก่อนส่งมอบเสมอ