5 เทรนด์ในการพัฒนา digital product ที่คุณควรรู้
สรุปสาระสำคัญ:
การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลช่วยให้โปรดักต์ต่างๆ สามารถจัดการและวางแผนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับปัญหาในอนาคตได้ ตลอดจนได้รับ insight เกี่ยวกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การมุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพด้าน SEO และการทำ UX writing สามารถเพิ่มยอดการเข้าชมแบบออร์แกนิก และช่วยให้ธุรกิจดึงดูดกลุ่มผู้ชมที่เหมาะสมได้
การสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าต้องคำนึงถึงความคิดเห็นของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทต่างๆ กำลังดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้น
การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันภัยอันตรายทางไซเบอร์และลดความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนบุคคลและมีความสำคัญจะรั่วไหล
การจ้างบุคคลภายนอกช่วยให้ทีมภายในองค์กรสามารถควบคุมงานเฉพาะด้านได้ ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาโปรดักต์ให้เร็วขึ้น
เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่กระบวนการพัฒนาโปรดักต์จะต้องบูรณาการและใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลภายนอก เนื่องจากข้อมูลภายนอกและคำติชมของลูกค้าที่มาจากบุคคลอื่น จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าตั้งแต่การวางแนวคิดไปจนถึงการนำไปปฏิบัติจริงจะเป็นไปอย่างราบรื่นในทุกขั้นตอน
ด้วยความที่ขอบเขตของ digital product มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเทรนด์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อ product owner อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดแนวทางในการมอบและนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับผู้ใช้ของพวกเขา
การพัฒนาโดยอ้างอิงจากข้อมูล
การใช้ Data Science และการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data มีบทบาทสำคัญในระหว่างการพัฒนาโปรดักต์ ด้วยการพึ่งพาข้อมูล ธุรกิจต่างๆ สามารถรับ insight เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรดักต์ พฤติกรรมของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของตลาด ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
บริษัทต่างๆ สามารถรวบรวมข้อมูลนี้ได้อย่างสะดวกผ่านแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงเครื่องมือสนับสนุนลูกค้า การวิเคราะห์แอปมือถือ และข้อมูลการโฆษณา ซึ่ง product owner สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเหล่านี้ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ data scientist ยังสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์การกระทำในอดีตโดยใช้ machine learning และ AI ได้อีกด้วย
ดังนั้นเมื่อพวกเขารวบรวมข้อมูลได้เพียงพอแล้ว พวกเขาก็สามารถให้คำแนะนำทางธุรกิจในการตัดสินใจลงทุน สร้างแคมเปญการตลาด และทิศทางการพัฒนาโปรดักต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากความสามารถในการปรับปรุงการวิเคราะห์โปรดักต์ไปจนถึงการช่วยให้ developer เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้โปรดักต์ โดยธุรกิจที่ใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยหลักในการช่วยเรื่องการตัดสินใจในอนาคต รับประกันได้ว่าธุรกิจจะสามารถรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างแน่นอน
2. เน้นการมองเห็นแบบออร์แกนิก
การรวมการเขียนเพื่อ SEO และ UX writing เข้าด้วยกันถือว่าเป็นการให้ความสำคัญกับประเภทของคอนเทนต์ที่ธุรกิจต้องการ
จุดประสงค์คือเพื่อนำผู้ใช้เป้าหมายของคุณไปยังโปรดักต์ที่เหมาะสมโดยการผลิตคอนเทนต์ที่มี UX ที่ดีและปรับให้เหมาะกับเครื่องมือค้นหา ซึ่งในทางกลับกันจะช่วยให้ดิจิทัลแพลตฟอร์มของคุณปรากฏต่อผู้ใช้โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาที่ต้องเสียเงินมากเกินไป แน่นอนว่าการเรียกผู้ชมของคุณให้หันมาสนใจมากขึ้นด้วยการใช้เทคนิคการเขียนเพื่อ SEO และ UX writing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมรูปแบบการทำคอนเทนต์ทางออนไลน์และดึงดูดกลุ่มผู้ชมที่เหมาะสมได้ ด้วยการนำพวกเขาไปสู่จุดที่เราต้องการให้พวกเขาอยู่ นั่นก็คือหน้า landing page, หน้า product page และหน้าบริการที่เรามีอยู่นั่นเอง
การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอนเทนต์ในลักษณะของงานเขียนนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้พวกเขาจัดลำดับความสำคัญทั้งประสบการณ์ผู้ใช้และการตลาด การผสมผสานระหว่างการเขียน UX writing และ SEO ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอันทรงพลัง โดยผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองเรื่องนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการผลิตคอนเทนต์ชั้นยอดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้
ปริมาณการรับส่งข้อมูลที่สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนแก่ธุรกิจ ว่าพวกเขาสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงไหน โดยการเน้นย้ำถึงบทบาทของ UX writer ทั้งการเขียน SEO และ UX ว่ามีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการให้การสื่อสารระหว่างผู้ใช้และ digital product ราบรื่นมากที่สุด
ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งการเขียน SEO และ UX writing จะต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
3. การมีส่วนร่วมของลูกค้า
การมีส่วนร่วมกับลูกค้าเพื่อกระชับความสัมพันธ์
การมีส่วนร่วมของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญเมื่ออยู่ระหว่างกระบวนการพัฒนาโปรดักต์ สิ่งนี้ถือเป็นพื้นฐานที่จำเป็นมากสำหรับบริษัทต่างๆ ที่จะอ้างอิงกลับไปยังลูกค้าของตนในทุกสถานะของวงจรการพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่าแนวทางที่ใช้นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามความคาดหวังที่ตั้งไว้ในตอนแรก
กระบวนการโดยรวมจะขึ้นอยู่กับคำติชมและไอเดียของลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เชี่ยวชาญจะได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการเฉพาะเกี่ยวกับโปรดักต์นั้นๆ
ดังนั้นจึงมีบริษัทของลูกค้าหลายรายที่เข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งลูกค้าบางคนอาจรู้แน่ชัดว่าพวกเขาต้องการอะไร หรือบางคนก็มีเพียงความคิดที่คลุมเครือว่าต้องการแค่จะใช้แพลตฟอร์มไหน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูกค้าจะมีแนวคิดดังกล่าวอยู่ในหัวหรือไม่ก็ตาม การมีส่วนร่วมของลูกค้ายังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อยู่
4. ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งที่ต้องมี
มีขั้นตอนต่างๆ มากมายที่บริษัทสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและข้อมูลสำคัญของบริษัทรั่วไหลออกสู่สาธารณะ บริษัทต่างๆ จะต้องทราบว่าองค์กรได้รับข้อมูลประเภทใดเข้ามาบ้างและมีการจัดเก็บไว้ที่ไหน
เมื่อมีการแบ่งปันข้อมูลสำคัญกับคนภายนอกหรือองค์กรอื่นๆ บริษัทจะไม่สามารถควบคุมข้อมูลดังกล่าวได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีโปรแกรมการพัฒนาที่ปลอดภัยในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาโปรดักต์ องค์กรควรเริ่มใช้มาตรการทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของตนจะได้รับการปกป้อง ไม่ว่าจะนำไปใช้ทำอะไรก็ตาม
5. การจ้างทีมเสริม
หนึ่งในวิธีลดต้นทุนการดำเนินงานคือการที่ธุรกิจต่างๆ จะสำรวจทางเลือกในการจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาช่วยทำงาน นี่คือเวลาที่ธุรกิจจะขอให้ทีมเสริมจากภายนอกเข้ามารับหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้พวกเขามุ่งความสนใจไปที่เรื่องอื่นที่สำคัญกว่า แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับการจ้างทีมเสริม แต่วิธีการนี้ก็ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโปรดักต์เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรต่างๆ จะประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้
Product owner ควรตระหนักถึงประโยชน์ของการจ้างทีมเสริมเพื่อเข้ามาช่วยงานในส่วนต่างๆ เพราะคุณจะได้ใช้เวลาไปกับงานหลักได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
การจ้างทีมเสริมในการพัฒนาและการออกแบบโปรดักต์สามารถช่วยเร่งระยะเวลาในการทำโปรเจกต์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาขาดเครื่องมือและทรัพยากรที่จะดำเนินการในทุกด้านของการพัฒนา digital product
ความก้าวหน้าของการพัฒนาโปรดักต์ร่วมกับมีเสริมจากภายนอกขึ้นอยู่กับการประสานงานที่ราบรื่นและการวางแผนทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ แม้กระทั่งเมื่อติดต่อกับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม นั่นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในการรักษาการควบคุมและขับเคลื่อนโปรเจกต์ให้เดินไปข้างหน้า ถึงแม้ว่าคุณจะให้ความไว้วางใจอย่างมากกับทีมเสริมจากภายนอกองค์กรก็ตาม
ธุรกิจที่ไม่เข้าใจถึงประโยชน์ของการจัดหาทีมเสริมจากภายนอกมาช่วยพัฒนาโปรดักต์มีโอกาสเผชิญกับผลกระทบร้ายแรง เนื่องจากตลาดเต็มไปด้วยคู่แข่งและต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการขึ้นไปยืนในตำแหน่งที่ดีที่สุดของตลาดดิจิทัล
ทำความเข้าใจเทรนด์การพัฒนา digital product ให้มากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว กระบวนการพัฒนา digital product ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างและสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ภูมิทัศน์ดิจิทัลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและซับซ้อนกว่าที่เคย ดังนั้นกระบวนการพัฒนาทั้งหมดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจหากดำเนินการผิดขั้นตอน ถ้าคุณอยากจะพัฒนาดิจิทัลโปรดักต์แต่ยังไม่รู้จะทำอย่างไรดีให้ออกมาประสบความสำเร็จ ปรึกษาเราเพื่อช่วยให้เป้าหมายทางธุรกิจของคุณกลายเป็นความจริง