5 เทรนด์ของการพัฒนาแอปฯ มือถือที่คุณควรรู้
เผยแพร่เมื่อ 16 Nov 2022 โพสไปที่สรุปประเด็นสำคัญ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแอปฯ ที่มีการเรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่เสมอสามารถระบุและทำนายการใช้งานของผู้ใช้รวมทั้งทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้นได้โดยการใช้ข้อมูลจากอัลกอริทึมที่เก็บรวบรวมไว้
เมื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปปรับใช้กับแอปพลิเคชันมือถือ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ทั้งยังช่วยให้ธุรกรรมมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย
Internet of Things (IoT) คือเครือข่ายระบบนิเวศที่บรรจุข้อมูลจากอุปกรณ์และผู้คนหลากหลาย ซึ่งมีอิทธิพลต่อการสร้างแอปพลิเคชันมือถือ
กระเป๋าเงินดิจิทัลในมือถือทำให้การทำธุรกรรมทางธนาคารผ่านช่องทางออนไลน์นั้นราบรื่นยิ่งขึ้น โดยสามารถเพิ่มข้อมูลของคุณลงไปในแอปฯ ที่เข้ารหัสเพื่อทำธุรกรรมในแต่ละวันได้อย่างง่ายดาย
แอปฯ แบบ on-demand เป็นโซลูชันที่สะดวกสบายกว่าเดิมในการใช้บริการออนไลน์ต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการที่ต้องการได้ทันที
แอปพลิเคชันมือถือมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องและถูกนำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบันควบคู่กัน บทบาทที่โดดเด่นที่สุดของแอปฯ มือถือในระบบนิเวศดิจิทัลและแนวทางการใช้แอปฯ เหล่านี้กับเทรนด์ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย
แอปพลิเคชันมือถือที่เข้าถึงง่ายขึ้นทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าสามารถเชื่อมโยงกับแบรนด์ในแบบที่พวกเขาสะดวกที่สุดได้ ดังนั้น วิธีที่บริษัทต่างๆ เลือกในการใช้นวัตกรรมมักจะเกี่ยวข้องกับความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำแอปพลิเคชันมือถือมาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
และนี่คือ 5 เทรนด์ในการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือที่คุณควรรู้
1. ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของแอปฯ
ปัญญาประดิษฐ์คือการที่ระบบสามารถเรียนรู้พฤติกรรมและตัดสินใจบางอย่างได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อคอมพิวเตอร์สามารถทำงานที่เคยออกแบบมาสำหรับมนุษย์และจำลองพฤติกรรมของพวกเราได้จึงทำให้พวกมันถูกนำมาใช้ในแอปฯ มือถือเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนมากขึ้น
เทคโนโลยีของ AI ในยุคนี้ได้รับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเราและออกแบบมาให้เรียนรู้และปรับตัวได้ จนกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการมากที่สุดในปัจจุบัน มีการนำ AI ไปใช้อย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันไปตั้งแต่เว็บไซต์จนถึงแอปฯ การนำ AI ไปปรับใช้กับธุรกิจจึงค่อยๆ กลายเป็นธรรมเนียมปกติของการทำธุรกิจมากขึ้นในยุคนี้
การนำ AI ไปทำงานร่วมกับแอปฯ มือถือเช่นนี้ทำให้ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ดีขึ้นเนื่องจากช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงและเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ดีกว่าเดิมผ่านทางมือถือ อุปกรณ์ต่างๆ ในสมัยนี้ต้องพึ่งพาอัลกอริทึมที่เกิดจากการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ โดยอัลกอริทึมไม่เพียงแต่สามารถบอกได้ว่าเทรนด์จะเป็นอย่างไร และควรปรับเปลี่ยนแอปฯ ไปทางไหนเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมได้ รวมถึงวิเคราะห์ traffic ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์เพื่อนำมาพัฒนาระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้
2. บล็อกเชน
เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ปกป้องข้อมูลจากการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การใช้คริปโทเคอร์เรนซีช่วยปกป้องการฉ้อโกงและทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้การมีฐานข้อมูลที่กระจายศูนย์ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครลักลอบเข้ามาแก้ไขข้อมูลและบันทึกต่างๆ ที่สำคัญ
เราสามารถนำบล็อกเชนไปใช้ในการพัฒนาแอปฯ มือถือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้ เมื่อความปลอดภัยของแอปฯ เพิ่มขึ้น การทำธุรกรรมดิจิทัลและการทำธุรกรรมอื่นๆ ของแอปฯ มือถือจึงเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น การย้อนรอยเพื่อตรวจสอบและติดตามสามารถทำได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะมีเอกสารปลอมหรือเจาะข้อมูลก็ตาม
แอปฯ มือถือสามารถพึ่งพาเทคโนโลยีบล็อกเชนได้เพราะมีโครงสร้างแบบไดนามิก เครือข่ายบล็อกเชนจะจัดเก็บข้อมูลเป็นบล็อกที่เชื่อมต่อกันเพื่อให้ทำงานง่าย ในขณะเดียวกันก็ป้องกันระบบล่มได้ด้วย ผลลัพธ์ก็คือ ผู้ใช้จะรู้สึกสบายใจขึ้นว่าข้อมูลของพวกเขาได้รับการจัดเก็บอย่างปลอดภัย
ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยให้นักพัฒนาแอปฯ มีตัวเลือกในการพัฒนาแอปฯ มือถือที่ปลอดภัยมากขึ้น ทำให้การปรับปรุงและพัฒนาแอปฯ ปลอดภัยจากกลโกงทั้งหลายมากกว่าเดิม
3. Internet of Things
IoT สำหรับการพัฒนาแอปฯ คือส่วนผสมของเทคโนโลยี machine learning และการใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมและยกระดับความพึงพอใจของผู้บริโภค เป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกชนิดเข้าด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ช่วยให้อุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แกดเจ็ต และอุปกรณ์อื่นๆ สามารถสื่อสารกันเองได้ เท่านั้นยังไม่พอ ข้อมูลที่เก็บจากอุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถเข้าถึงและควบคุมได้จากทุกที่อีกด้วย
IoT เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดไว้ในระบบเดียว ช่วยให้แอปต่างๆ สามารถให้บริการทางมือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว การที่มีอุปกรณ์หลายชนิดเชื่อมต่ออยู่ในระบบนิเวศเดียวกันจึงหมายความว่าอุปกรณ์เหล่านี้สามารถติดต่อ ปรับเปลี่ยน และส่งข้อมูลทุกชนิดได้
เมื่อมีการใช้ IoT มากขึ้นในแอปฯ มือถือ ธุรกิจต่างๆ จึงรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและปฏิสัมพันธ์ของลูกค้ามากขึ้น และจากข้อมูลเหล่านี้ทำให้ธุรกิจรู้จักลูกค้ามากขึ้น ช่วยให้พวกเขาทำตามสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังและตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้น
IoT ในแอปฯ มือถือก็เช่นเดียวกัน เพราะสามารถติดตามการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ฟีดแบ็กที่ได้จากการติดตามข้อมูลจะนำไปใช้กับแผนการตลาดและลดความเสี่ยงจากการโดนโจมตีระบบ ดังนั้น จึงสามารถทำนายพฤติกรรมของผู้ใช้ได้ และใช้พลังของอินเทอร์เน็ตในการตัดสินใจเลือกทิศทางการพัฒนาที่ถูกต้อง
4. กระเป๋าเงินดิจิทัลในมือถือ
กระเป๋าเงินดิจิทัลคือกระเป๋าเงินออนไลน์ที่เก็บข้อมูลของบัตรต่างๆ เพื่อใช้จ่ายเอาไว้บนมือถือ จึงสามารถนำไปใช้จ่ายในร้านค้าได้ และทำให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างที่ต้องการ
กระเป๋าเงินดิจิทัลนำเสนอโซลูชันดิจิทัลที่เข้าถึงง่ายโดยที่แทบไม่ต้องใช้เงินอะไร เมื่อติดตั้งลงไปในมือถือแล้ว มันก็จะเก็บข้อมูลด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนตัวของคุณเข้ากับบัตรได้ ตัวอย่างของกระเป๋าเงินดิจิทัลได้แก่ Apple Pay, Samsung Pay, และ Google pay เป็นต้น กระเป๋าเหล่านี้คือซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่ทำงานผ่านแอปฯ ที่จะส่งเงินของคุณไปยังร้านค้า และเมื่อยืนยันเสร็จแล้วเงินก็จะถูกส่งจากกระเป๋าของคุณไปยังกระเป๋าของร้านค้า
แอปพลิเคชันมือถือที่ใช้การเข้ารหัสนี้จะต่อสู้กับกลโกงและรับประกันว่าเงินที่เก็บไว้จะปลอดภัย การใช้จ่ายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นทำให้มันเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงและสะดวกสบาย และกลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยีมือถืออันดับต้นๆ ของปีนี้
5. แอปฯ แบบ on-demand
แอปฯ ที่ให้บริการแบบ on-demand นั้นเป็นเสมือนตัวกลางที่ทำงานเชื่อมโยงระหว่างลูกค้ากับธุรกิจ เป็นแพลตฟอร์มที่มีบริการหลากหลายตั้งแต่ บริการส่งอาหาร ไปจนถึงบริการเรียกรถรับส่ง ปัจจุบันนี้นักพัฒนาแอปฯ พยายามแก้ปัญหาที่เราเจอในชีวิตประจำวันด้วยการตอบโจทย์สิ่งที่เราต้องการ ลดภาระให้เราโดยใช้บริการที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
เทรนด์ของเทคโนโลยีนี้นำเสนอโซลูชันที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นให้กับบริการทั้งหลาย ทำให้ทุกสิ่งที่เราต้องการนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแค่ปลายนิ้วเท่านั้น แอปฯ ที่ให้บริการแบบ on-demand ทำให้เราใช้ชีวิตได้สบายขึ้นในทันที ความสำเร็จของแอปฯ ประเภทนี้เกิดจากบริการที่รวดเร็วมาก พึ่งพาได้ และทำให้ลูกค้าพอใจอย่างยิ่ง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาแอปฯ มือถือ
กล่าวโดยสรุปก็คือ เทรนด์การพัฒนาแอปฯ ในปัจจุบันมุ่งเน้นการเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยให้กับผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การพัฒนาแอปฯ นั้นทำงานร่วมกันกับเทคโนโลยีสมาร์ตโฟน และนั่นทำให้มันกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเราทุกคน
เทรนด์มีการพัฒนาและเปลี่ยนไปมาอยู่ทุกวัน โดยความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเครื่องมือที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เทรนด์เหล่านี้จึงเป็นแนวทางที่คุณควรนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิ่งที่คุณทำจะประสบความสำเร็จ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ดิจิทัลในปี 2020 ดาวน์โหลดคำแนะนำเกี่ยวกับ digital transformation ของเราได้เลย