5 เหตุผลที่ธุรกิจออนไลน์ของคุณต้องมีทั้ง UX และ SEO
เผยแพร่เมื่อ 21 Oct 2022 โพสไปที่สรุปประเด็นหลัก
UX และ SEO ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ในระหว่างการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ
ทั้งสองอย่างนี้ต่างให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจซึ่งจะทำให้บริษัทของคุณดูมีคุณค่าและมีประโยชน์มากขึ้น
เผยให้เห็นตัวตนบนโลกออนไลน์ของธุรกิจคุณและแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าเฟรมเวิร์กของคุณมีประสิทธิภาพและทำงานได้เสถียร ซึ่งจะช่วยทำให้เห็นว่าบริษัทของคุณมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนนั่นเอง
ทั้ง UX และ SEO ต่างก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับและเปลี่ยนผู้ชมมาเป็นลูกค้าได้ หากขาดอันใดอันหนึ่งไปก็จะทำให้เว็บไซต์ไม่มีประสิทธิภาพ
เมื่อผนวกรวมกลยุทธ์ UX และ SEO ไว้ด้วยกัน แคมเปญ SEO ของคุณก็จะติดอันดับในผลการค้นหามากขึ้น
การสร้างปฏิสัมพันธ์ออนไลน์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในยุคนี้มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ถ้าหาก search engine optimization (SEO) คือพื้นฐานสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ user experience (UX) ก็ย่อมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุด ไม่ว่าธุรกิจออนไลน์ใดๆ ก็ตาม SEO จะโฟกัสกับเรื่องทางเทคนิคของเว็บไซต์ ในขณะที่ UX จะสร้างฟีเจอร์ที่ทำให้เว็บไซต์นั้นเหมาะสมกับผู้ใช้มากขึ้น
UX กับ SEO ทำงานร่วมกันอย่างไร
การมองปัญหาของผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO และนักออกแบบ UX นั้นต่างกันอย่างชัดเจน โดยนักออกแบบ UX จะให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นหลัก ด้วยการใช้เวลามากมายไปกับการหาว่าผู้ใช้ต้องการอะไรและสร้างดีไซน์แบบที่พวกเขาอยากใช้ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO นั้นนอกจากจะต้องโฟกัสกับผู้ใช้แล้วยังต้องรู้ว่าอัลกอริทึมที่ใช้ในการค้นหาใดบ้างมีความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นเจอสิ่งที่ต้องการ
แม้แนวทางการแก้ปัญหาจะแตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การมอบสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งหากจะพูดให้ชัดขึ้นก็คือ มอบข้อมูลที่มีค่าให้ผู้ใช้เพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุสิ่งที่ต้องการนั่นเอง ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้าน SEO จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่ม organic traffic บนเว็บไซต์ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมคอนเทนต์ที่เหมาะสม และได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
ส่วนนักออกแบบจะโฟกัสไปที่การใช้งานเว็บไซต์และสุนทรียะของการออกแบบเพื่อทำให้ผู้ใช้มีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองอย่างนี้ก็ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลชัดเจนจากการใช้แพลตฟอร์มนั่นเอง ที่สุดแล้ว ทั้งสองต่างก็พึ่งพากันและกันเสมือนว่า SEO คือหยิน ส่วน UX คือหยาง
ดังนั้น บริษัททั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผสมผสานดีไซน์ของ UX กับกลยุทธ์ SEO เข้าด้วยกัน การโฟกัสกับเรื่องใดเรื่องเดียวอาจทำให้ประสบการณ์การใช้งานแย่และมีรายได้น้อยลง การตัดสินใจเลือกกลยุทธ์เพื่อสร้างอันดับที่ดีในหน้าผลการค้นหาต้องอาศัยทั้ง UX และ SEO เพื่อโฟกัสกับโครงสร้างของเว็บไซต์และปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสมที่สุด เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิม
เป้าหมายที่เหมือนกันของ SEO และ UX
เมื่อผู้ใช้มีปัญหา พวกเขามักจะมองหาทางแก้ไขจาก Google หรือ search engine อื่นๆ โดยอัลกอริทึมของ Google จะช่วยผู้ใช้ในการค้นหาผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องที่สุด โดยเรียงผลลัพธ์จากคุณสมบัติของ SEO คอนเทนต์บนเว็บไซต์ และ UX ที่แตกต่างกัน หากเว็บไซต์ใดขาดปัจจัยเหล่านี้ไป อันดับในหน้าผลการค้นหาก็จะตกลง traffic น้อยลง และ engagement โดยรวมบนเว็บไซต์ก็จะลดลงตาม
นี่คือสาเหตุว่าทำไม UX และ SEO ต้องทำงานร่วมกันเพื่อจะไปถึงเป้าหมายเดียวกันให้ได้
เรื่องหลักที่ SEO โฟกัสก็คือโครงสร้างของเว็บไซต์ โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่ม organic traffic ในขณะที่ UX นั้นขับเคลื่อนให้ผู้ชมอยู่บนเว็บไซต์ให้นานที่สุดด้วยการทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่าย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการออกแบบเว็บไซต์ที่ลดสิ่งรบกวนอื่นๆ ลง และเพิ่ม conversion
ปัจจัยในการทำ UX และ SEO ที่ควรโฟกัส
มาดูกันว่าปัจจัยในการทำ UX และ SEO ที่ช่วยคุณทำธุรกิจออนไลน์มีอะไรบ้าง
คอนเทนต์ที่มีคุณภาพจะได้อันดับที่สูงขึ้น
ทั้ง SEO และ UX จะโฟกัสที่คุณภาพของคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเจ้าของเว็บไซต์ทุกแห่งจะนำเสนอคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้จริงๆ แม้ว่าการทำการตลาดด้านคอนเทนต์จะสามารถโปรโมตธุรกิจคุณได้ดี แต่คอนเซปต์นี้จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ หากคอนเทนต์ซ้ำกับที่อื่นๆ หรือแทบไม่มีคุณค่าใดๆ ต่อผู้ชมเลย
การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าทำได้โดยเผยแพร่กรณีศึกษาดีๆ และนำเสนอทางแก้ไขปัญหาที่สร้างสรรค์ให้กับลูกค้าของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ทำให้เรียบง่าย เหมาะสม และมีเอกลักษณ์ชัดเจนเข้าไว้
Google ได้เปลี่ยนจากการเน้นคำที่ใช้ค้นหาไปที่การนำเสนอคอนเทนต์ต่อผู้ใช้แทน เมื่อผสมผสาน UX และ SEO เข้าด้วยจะช่วยให้นำเสนอข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการได้อย่างแม่นยำ เพราะ UX ทำให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นและใช้ง่าย ส่วน SEO จะพาผู้ใช้ไปพบกับข้อมูลที่ต้องการ
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์
ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้คือการใช้งานเว็บไซต์ที่โหลดได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้ไม่ชอบรอหน้าเว็บไซต์ที่โหลดช้า พวกเขาต้องการข้อมูลที่รวดเร็วและเพียงพอต่อความต้องการ
สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ หากหน้าเว็บไซต์โหลดช้าคือแค่ไม่กี่วินาที bounce rate ของเว็บไซต์คุณอาจเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อ SEO
คะแนน SEO จะคำนวณจากความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เนื่องจาก Google ต้องการแสดงผลเว็บไซต์ที่โหลดเร็วเท่านั้น เพราะพวกเขาอยากให้ผู้ใช้หารายละเอียดข้อมูลที่ต้องการเจอในทันที ดังนั้นเว็บไซต์ที่โหลดเร็วจึงอยู่ในอันดับแรกๆ ของผลการค้นหา
นอกจากนั้น เว็บไซต์ที่โหลดเร็วยังมอบ UX ที่ดีให้กับผู้ใช้อีกด้วย เพราะผู้ใช้มากมายจะอยู่บนเว็บไซต์ของคุณต่อไปหากสามารถอ่านรายละเอียดได้โดยไม่ต้องรอโหลดนาน ซึ่งจะทำให้ได้ engagement นานขึ้น และ bounce rate ลดลง และเว็บไซต์ของคุณได้อันดับดีขึ้นในท้ายที่สุด
ระบบนำทางที่เข้าใจง่าย
Navigation หรือระบบนำทาง คือปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน มีเว็บไซต์มากมายที่ระบบนำทางใช้งานยาก และส่งผลเสียทั้งต่อ UX และ SEO เลย์เอาต์ของเว็บไซต์นั้นไม่ได้สำคัญแค่กับคุณแต่ยังสำคัญต่อ search engine ด้วย
ควรท่องเอาไว้ว่า มีผู้ใช้มากมายที่เข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณจากหลากหลายหน้า ไม่ใช่แค่หน้าแรกเท่านั้น การจะรักษาพวกเขาไว้ ระบบนำทางไปยังหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ของคุณต้องเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ไม่ว่าผู้ใช้ หรือ search engine จะเข้าจากหน้าไหนก็ตาม
ที่สุดแล้ว ระบบนำทางจะส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้ที่เข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย เพราะมันช่วยให้คุณได้อันดับที่ดีขึ้นในหน้าผลการค้นหา ทั้งยังทำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นและเจอสิ่งที่ต้องการอีกด้วย
ถ้าระบบนำทางของคุณดูสับสนมากเกินไป อาจทำให้ผู้ใช้ไม่อยากอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของคุณต่อ หากผู้ใช้หาข้อมูลยาก พวกเขาก็จะล้มเลิกการค้นหาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ระบบนำทางที่เข้าใจง่ายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
แสดงผลบนหน้าจอมือถือได้ดี
ในบรรดาโปรเจกต์ทั้งหมดที่นักออกแบบ UX มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เน้นการออกแบบให้แสดงผลบนหน้าจอมือถือดีไว้ก่อน ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณแสดงผลบนหน้าจอมือถือ(รวมถึงแท็บเล็ตและเบราว์เซอร์ต่างๆ)ได้ไม่ดีพอ ก็เป็นไปได้ว่า engagement ของผู้ใช้จะออกมาแย่ตามไปด้วย
ใช้งานบนมือถือได้ดี
ด้วยเหตุที่ผู้ใช้เข้าไปชมคอนเทนต์ผ่านมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ เว็บไซต์ของคุณจึงต้องปรับตัวตามเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตก็ตาม
ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือนั้นจะแตกต่างจากบนเดสก์ท็อปตรงที่ลูกค้ามักจะหาข้อมูลในระหว่างเดินทาง คุณจึงต้องสร้างเว็บไซต์ที่โหลดเร็วและทำงานได้ดีบนมือถือเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหมาะสม
มีองค์ประกอบมากมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับมือถือ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ระบบนำทาง ข้อความ และรูปภาพ สิ่งเหล่านี้ควรแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนและเหมาะสมบนมือถือ ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือที่ยอดเยี่ยมจะทำให้คุณก้าวไปอย่างถูกทาง และเพิ่มความนิยมให้กับเว็บไซต์ได้
เว็บไซต์ที่ปรับหลายๆ ด้านให้เข้ากับมือถือจะส่งผลดีต่อทั้ง SEO และ UX ทั้งทางตรงและทางอ้อม
เราพร้อมช่วยคุณ
เทคโนโลยีล้วนมีพัฒนาการที่เจริญรุดหน้าไปทุกวัน เช่นเดียวกับ search engine และความต้องการของลูกค้า การที่คุณจะอยู่รอดในตลาดที่แข่งขันกันสูงลิ่วของยุคนี้ได้นั้น คุณจะต้องตามเทรนด์ให้ทัน
เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่า UX เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำให้เว็บไซต์ของคุณได้อันดับที่ดีขึ้นบนหน้าผลการค้นหา จึงต้องนำ UX มาผสมผสานกับกลยุทธ์ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและ conversion rate ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
ทีมงานของเราเข้าใจดีว่า SEO นั้นมีพลังแค่ไหนและ UX สำคัญอย่างไร นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเราจึงนำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพที่สุด เป็นมิตรกับผู้ใช้ที่สุด และมีความยืดหยุ่นให้กับลูกค้าของเรา หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าเราจะช่วยวางกลยุทธ์ UX และ SEO ให้คุณได้อย่างไร ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลย
