Microcopy: ข้อความยิบย่อย แต่อิมแพกต์ยิ่งใหญ่
เผยแพร่เมื่อ 23 Nov 2022 โพสไปที่“รายละเอียดไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่คือส่วนสำคัญของดีไซน์” Charles Eames.
เฉพาะคำอย่างเดียวก็เป็น 95 เปอร์เซนต์ของข้อมูลที่เราใช้ในการสื่อสารแล้ว เพราะฉะนั้น ทุกรายละเอียดในคอนเทนต์ล้วนมีความสำคัญเท่ากันหมด แม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆ ก็ตาม
คุณอาจจะออกแบบ interface ได้น่าสนใจ แต่เมื่อขาดคำที่ใช่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำทางผู้ใช้อย่างถูกวิธีแล้วละก็ ดีไซน์นั้นก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ เพียงแค่ microcopy เล็กๆ ก็อาจเป็นตัวช่วยให้กับทั้งการออกแบบ อีกทั้งยังสามารถลดความคลุมเครือและรักษาผู้ใช้ได้ด้วย
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก microcopy และอธิบายว่าทำไมมันถึงมีความสำคัญสำหรับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงทริกสำหรับการพัฒนาทักษะการเขียน microcopy ด้วย
Microcopy คืออะไร
Microcopy หรือที่เรียกกันว่า UX microcopy คือข้อความสั้นๆ ให้คำแนะนำที่อยู่ในแบบฟอร์ม ปุ่มกด คำค้นหา กล่องทิป และองค์ประกอบอื่นๆ ของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งจะให้ข้อมูลและนำทางผู้ใช้ในการทำกิจกรรมหนึ่ง อย่างเช่นการค้นหาสิ่งต่างๆ
การเขียน microcopy ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:
ความเรียบง่าย – ทำให้ผู้ใช้ตอบโต้กับข้อความได้สะดวก
บริบท – ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจว่าควรทำอะไร
ลงมือทำ – ใช้คำที่ช่วยผู้ใช้ให้ทำสิ่งหนึ่งได้สำเร็จ
ความจริงใจ – เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ และกระตุ้นให้พวกเขาลงมือทำ
ความสำคัญของ microcopy
หากลบ microcopy ออกจากหน้าจอไป interface ก็จะดูน่าสับสนเมื่อไม่มีข้อความที่คอยบอกว่าต้องทำอะไรต่อหรือแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายที่รออยู่
ความสำคัญของ Microcopy ก็คือการทำให้ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเข้าใจง่ายและใช้งานได้สะดวก microcopy ที่เขียนได้เคลียร์จะช่วยให้ผู้ใช้หาและทำกิจกรรมที่พวกเขาต้องการไว้ได้สำเร็จ
เรายังใช้มันในการกระตุ้นผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นไปพร้อมกันด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อเราแจ้งผู้ใช้อย่างตรงไปตรงมาว่าเราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาเพื่อจุดประสงค์อะไร
นอกจากนี้ microcopy ยังมีผลอย่างมากต่อยอด conversion เพราะมันเกี่ยวข้องกันกับสิ่งที่ผู้ใช้จะกระทำ การใช้คำที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมอาจทำให้ผู้ใช้กดซื้อสินค้าแทนที่จะกดออกจากหน้าเว็บไปเลยก็ได้
โดยรวมแล้ว microcopy นั้นช่วยสร้างโอกาสที่ดีเยี่ยมเพื่อพัฒนาทุกประสบการณ์ในการใช้งานของผลิตภัณฑ์หนึ่ง ในขณะเดียวกัน microcopy ก็ยังไม่ใช่กระสุนวิเศษที่สามารถเจาะลึกไปถึงจิตใจของผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ การเขียน microcopy นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำในช่วงการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับโทนการใช้ภาษาและและลักษณะของธุรกิจอีกด้วย
Microcopy ส่งผลอย่างไรกับหน้าเว็บไซต์
Microcopy ที่มีประสิทธิภาพจะพยายามทำความเข้าใจผู้ใช้และให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เมื่อผู้ใช้เข้ามายังหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน พวกเขาอาจมีคำถามมากมาย ด้วยไกด์ไลน์สั้นๆ microcopy สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ตลอดทั้งการใช้งาน
เรายังใช้ microcopy ในการเพิ่มยอด engagement ทำความเข้าใจผู้ใช้ และเพิ่มความโปร่งใสได้ด้วย รวมไปถึงการเพิ่มความชัดเจนและสามารถควบคุมได้ง่าย
1. ทำให้มีความชัดเจนและควบคุมได้ง่าย
เมื่อผู้ใช้เข้าสู่หน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันแล้วพบกับข้อความที่น่าสับสน พวกเขาก็มักจะออกจากหน้านั้นไปโดยทันที ซึ่ง microcopy สามารถลดปัญหานี้ได้ และยังดึงดูดผู้ใช้ด้วยข้อความที่ชัดเจนและสั้นกระชับบนองค์ประกอบต่างๆ ของ UI อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น Slack ใช้ microcopy ที่อธิบายชัดเจนว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และจะเกิดอะไรต่อไป การใช้ microcopy บนปุ่มหรือรอบๆ ปุ่มบอกผู้ใช้ว่าหลังสมัครสมาชิกแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้อยู่ในขั้นตอนที่คุณต้องการให้พวกเขาทำจนจบมากขึ้น
นอกจากนี้ microcopy ที่มีประสิทธิภาพจะไม่ใช้พื้นที่ทั้งหน้าจอเพื่ออธิบายทุกอย่างให้เข้าใจ ซึ่งจริงๆ แล้วอาจสั้นและตรงตัวเลยก็ได้ เพราะเป้าหมายหลักของ microcopy คือการลดความกังวลและให้ข้อมูลผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม
2. ทำความเข้าใจผู้ใช้ได้ดีขึ้น
คุณสามารถเพิ่มยอด engagement และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้ ด้วยการใส่ความรู้สึกลงไปใน microcopy
ในขณะที่ผู้ใช้เริ่มทำความรู้จักกับตัวตนของแบรนด์ พวกเขามักจะเข้าหาแบรนด์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีกับตนเองมากกว่า ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการออกแบบแบรนด์ให้เข้ากับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ
อย่างไรก็ตาม การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้นั้นจำเป็นต้องพึ่งการวิจัยผู้ใช้อย่างมาก เมื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้และความต้องการแล้ว การเขียน microcopy ที่เข้าอกเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใช้รู้สึกจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมา
ตัวอย่างเช่น Slack ปรับข้อความแสดง error ที่แสดงออกชัดเจนถึงความเอาใจใส่ผู้ใช้เมื่อพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ๆ หนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์นั้นเป็นไปในเชิงลบ ซึ่งกลยุทธ์การใช้ microcopy ในแต่ละสถานการณ์จะช่วยปรับอารมณ์ผู้ใช้จากไม่พอใจให้กลายเป็นดีได้
3. สร้างความโปร่งใส
เพราะโลกดิจิทัลมีปัญหาในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง ผู้ใช้อาจรู้สึกเคลือบแคลงใจเมื่อต้องใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไป หรือแม้กระทั่งทำรายการชำระบนหน้าเว็บไซต์
Microcopy สามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มความโปร่งใสให้กับส่วนต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ด้วยการบอกผู้ใช้ว่าข้อมูลจะถูกขอไปเพื่ออะไร และจะนำไปใช้ได้อย่างไรบ้าง
ตัวอย่างเช่น ระหว่างสมัครบริการ premium ของ Linkedin เว็บไซต์จะกล่าวถึงรายละเอียดว่าผู้ใช้จำเป็นต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิตเพราะอะไร และบอกว่ามีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการหักเงินนอกเหนือจากที่ระบุไว้ การใช้ microcopy ในลักษณะนี้จะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้
เพราะฉะนั้น แทนที่จะคาดหวังว่าผู้ใช้จะกรอกข้อมูลลงไปทั้งหมดโดยไม่มีคำถามใดๆ คุณควรบอกให้ผู้ใช้รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป และทำให้ผู้ใช้เชื่อมั่นว่าข้อมูลที่ให้ไปจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คุณควรระมัดระวังไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังมากเกินไป ซึ่งทำได้ด้วยการบอกผู้ใช้โดยคร่าวๆ และทำให้ผู้ใช้รู้สึกวางใจได้
4. ช่วยเตรียมพร้อมก่อนลงมือกระทำ
เป้าหมายของนักออกแบบ UX คือการทำให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั้น ซึ่ง microcopy สามารถช่วยในขั้นตอนนี้ได้ โดยจูงใจให้ผู้เข้าชมมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา และทำกิจกรรมต่างๆ ได้
คนเรามักจะรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งบนหน้าเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม การใช้ microcopy ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยทำให้พวกเขาทำต่างๆ จนเสร็จสมบูรณ์ เพิ่มยอด engagement และยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้อยากไปต่อได้ด้วย
คำถามที่สำคัญคือเราจะกระตุ้นผู้ใช้ให้ทำสิ่งสิ่งหนึ่งได้อย่างไร ซึ่งคำตอบคือการให้เหตุผลว่าการกระทำนั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น Grammarly ใช้เนื้อหาที่สั้นกระชับบนหน้าแรกของเว็บเพื่อนำทางผู้ใช้
ปุ่มนี้จะมีแค่คำว่า ‘Add to Chrome’ อย่างเดียวก็ได้ แต่การใส่คำว่า ‘It’s free’ ลงไป สามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ และทำให้ผู้ใช้อยากกดเพิ่มในทันที
4 คำแนะนำในการเขียน microcopy ให้ดีขึ้น
เพื่อยกระดับการเขียน microcopy เราควรนึกถึงเป้าหมายของธุรกิจและแบรนด์ไว้เสมอ โดยมีหลากหลายวิธีที่จะทำให้ทักษะการเขียนของคุณดีขึ้น แต่เราจะเลือก 4 วิธีมาแนะนำดังต่อไปนี้
1. รู้ tone of voice ในการเขียน
หากธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณมีไกด์ไลน์เกี่ยวกับ tone of voice อยู่แล้ว ถือว่าคุณนำหน้าไปไกลเลยละ แต่ต้องระวังไว้เสมอว่าควรเขียนให้ทุกส่วนมีมาตรฐานเดียวกัน และถ้าคุณยังไม่มี tone of voice ในใจก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้
2. เขียนให้รวบรัด
เมื่อต้องสร้าง interface ดิจิทัล พื้นที่มักมีจำกัด แต่พื้นที่นั้นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ควรใช้คำให้น้อยที่สุดในขณะที่คงความชัดเจนไว้
ยิ่งใช้คำเยอะมากเท่าไร ผู้ใช้จะยิ่งรู้สึกล้าจากการอ่านมากเท่านั้น การตั้งเป้าให้แต่ละปุ่มมีไม่เกินสามคำอาจยากไปบ้าง แต่นั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
3. เน้นความเข้าใจง่าย
Microcopy ที่ดีจะพูดภาษาเดียวกับผู้ใช้ ผู้ใช้อาจออกจากหน้าทันทีถ้าไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น การเขียน microcopy ที่ชัดเจนมากพอต้องอาศัยการทำวิจัยและถามฟีดแบ็กจากผู้ใช้ พูดคุยกับพวกเขา เรียนรู้วิธีการสื่อสาร และปรับการเขียนให้เป็นไปตามนั้น
4. ทดลองกับผู้ใช้จริง
คุณควรทดลองใช้ microcopy นั้นกับผู้ใช้จริง เช่นเดียวกันกับหลายๆ อย่างใน UX ซึ่งจะช่วยในการประเมินความชัดเจนของข้อความและทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะเข้าใจสิ่งที่จะสื่ออย่างแท้จริง
เพียงเพราะคอนเทนต์นั้นดีสำหรับคุณและทีม ไม่ได้หมายความว่าจะดีสำหรับผู้ใช้เสมอไป ลองทดลองกับผู้ใช้หลายๆ ครั้งดูสิ
พร้อมยกระดับ microcopy บนเว็บไซต์ของคุณหรือยัง
โดยรวมแล้ว microcopy ช่วยเพิ่มความชัดเจน บริบท ความสำคัญ และเข้าใจความคาดหวังของผู้ใช้ได้ สำหรับข้อความสั้นๆ แล้ว microcopy มีความสำคัญในการเพิ่มความพึงพอใจและยอด conversion อย่างมากเลยทีเดียว
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียน UX ที่มอร์โฟซิส เรามุ่งมั่นในการค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของการออกแบบ UX และการเขียนคอนเทนต์การตลาด เยี่ยมชมงานของเราเพื่อดูตัวอย่าง แล้วเราจะช่วยคุณเขียน microcopy เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพได้แน่นอน