Landing page คืออะไร สำคัญกับธุรกิจของคุณยังไง?
ถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานด้านการตลาดหรือเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ SEO คงมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่า landing page คืออะไร เพราะส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าหน้าเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่ทั่วไปก็เหมือนกันไปหมด แต่จริงๆ แล้ว landing page มีส่วนช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้มากกว่าที่คิด
จากสถิติเผยว่า หน้า landing page ซึ่งเป็น signup form รูปแบบหนึ่งที่บรรดาธุรกิจเลือกใช้งานน้อยที่สุด แต่กลับมี conversion rate สูงกว่าแบบฟอร์ม popup และ signup box ที่นิยมใช้มากกว่า และช่วยให้ธุรกิจของคุณได้ lead สูงถึง 23% เมื่อเทียบกับแบบฟอร์มทั้งสองแบบ ที่ 3% และ 1% ตามลำดับ (ข้อมูลจาก omnisend)
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราจะพาคุณไปทำความรู้จักว่า landing page คืออะไร และส่งผลดีมากแค่ไหนถ้าได้ทำหน้า landing page เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจของคุณ
Landing page คืออะไร ใช่หน้าเว็บไซต์ทั่วไปหรือเปล่า?
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ landing page (แลนดิ้งเพจ) ก็คือหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ชมจะเข้ามาในหน้านี้ทันทีหลังจากที่พวกเขาคลิกลิงก์ของเว็บที่อยู่ในผลการค้นหาแบบ paid search หรือแบบ organic search ก็ได้ โดยมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เช่น โฆษณาสินค้า โปรโมชันพิเศษ เชิญชวนให้สมัครสมาชิก หรือแม้แต่นำเสนอบริการต่างๆ
แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของหน้า landing page ก็คือการเพิ่ม conversion ที่ประกอบไปด้วยการใช้ CTA ที่สั้น กระชับ และตรงกับเป้าหมายของหน้าแลนดิ้งเพจนั้น ตัวอย่างเช่น “ลองใช้ฟรี”, “ปรึกษาฟรี” และ “สมัครสมาชิก” เป็นต้น
สิ่งที่ทำให้ landing page มีความพิเศษต่างจากหน้าเว็บอื่นในไซต์เดียวกัน ก็คงเป็นเพราะ landing page นำเสนอเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงบริการที่คุณต้องการให้ผู้ชมหรือ lead ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่คุณต้องการ นอกจากนี้ landing page ยังช่วยให้เกิด conversion ได้มากกว่าหน้าเว็บอื่นในไซต์เดียวกันด้วย เนื่องจากผู้ใช้จะได้อ่านและรับรู้ถึงข้อมูลพร้อม CTA ที่กระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจกรอกข้อมูล สมัคร หรือซื้อสินค้านั้นในทันที
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหน้า landing page ถึงเป็นสิ่งที่เว็บไซต์ของคุณควรมี นอกเหนือจากหน้า homepage หรือ about us ที่เป็นมาตรฐานของทุกเว็บไซต์อยู่แล้ว
Landing page มีกี่ประเภท ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดได้บ้าง?
หากคุณเข้าใจแล้วว่า landing page คืออะไร พร้อมกับฉุกคิดขึ้นมาในหัวว่าอยากที่จะทำหน้าเว็บประเภทนี้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจของตัวเองบ้าง เราก็มี landing page ทั้ง 10 ประเภทที่พบเห็นได้บ่อยมาให้คุณได้ลองพิจารณาดูว่าแบบไหนที่เหมาะสำหรับเป้าหมายของคุณ
1. Landing page แบบ lead capture page
เริ่มต้นกันด้วยหน้า landing page แบบ lead capture ที่มีการใช้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ โดยมาในรูปแบบของหน้าที่มีข้อความทางการตลาดที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้สนใจในสินค้าหรือบริการของคุณ พร้อมกระตุ้นให้พวกเขากรอกข้อมูลและอีเมลเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษหรือสิ่งต่างๆ ตอบแทน เช่น แจก ebook, คู่มือ หรือตั๋วเข้าชมสัมมนาทางออนไลน์ เหล่านี้ล้วนเป็นคอนเทนต์ที่ใช้ในหน้า landing page แบบ lead capture เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้นักการตลาดมักจะนิยมยิงโฆษณาแบบ pay-per-click (PPC) สำหรับโปรโมทหน้า landing page แบบ lead capture โดยมุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจและกำลังมองหาสินค้าหรือบริการที่พวกเขาต้องการ นั่นทำให้คุณมีโอกาสสูงมากที่จะเปลี่ยน lead ที่ได้ให้กลายมาเป็นลูกค้าและได้รับผลตอบแทนจากการทำแคมเปญที่เพิ่มขึ้น
อีกสิ่งที่ควรจำให้ขึ้นใจเมื่อคุณต้องการทำ landing page แบบ lead capture ก็คือต้องเขียนข้อความหรือ copywriting ที่นำเสนอถึงประโยชน์ที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมอบให้แบบกระชับ เข้าใจง่าย และสัมผัสได้ถึงความทรงพลังเมื่ออ่านในครั้งแรก พร้อมกับ CTA ที่สอดคล้องกับข้อความดังกล่าว เพื่อที่ผู้ใช้จะได้ตัดสินใจให้ข้อมูลที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้น
2. Landing page แบบ click-through page
หน้า landing page แบบ click-through นั้นมีไว้เพื่อให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอของคุณ เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ชมอยากที่จะคลิกไปต่อยังหน้าที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเพื่อเสนอขายสินค้าหรือให้พวกเขาสมัครสมาชิก ซึ่งเจ้าหน้า landing page ประเภทนี้ก็เหมือนกับคนกลางที่อยู่ระหว่างการโฆษณากับร้านค้าออนไลน์ของคุณ เพราะช่วยให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับสินค้าหรือบริการของคุณก่อนเป็นอันดับแรก และไม่ต้องรู้สึกเหมือนกับถูกบังคับซื้อในทันทีให้ต้องลำบากใจ
ในขณะเดียวกัน คุณก็ยังสามารถจูงใจให้ผู้ชมหน้า landing page แบบ click-through อยากที่จะคลิกผ่านไปยังขั้นตอนถัดไปที่คุณต้องการ ได้ด้วยการนำเสนอให้ทดลองใช้ฟรี แจกคูปองส่วนลด อย่างนี้เป็นต้น ยิ่งถ้าคุณได้ปรับแต่งข้อความกับปุ่ม CTA ให้โดนใจผู้ชมแล้ว พวกเขาก็จะรู้สึกอยากคลิกเพื่อไปต่อยังหน้าที่คุณต้องการ
3. Landing page แบบ splash page
Splash page คือหน้า landing page ประเภทหนึ่งที่มีไว้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งจะแสดงขึ้นมาบนหน้าจอก่อนที่ผู้ชมจะเข้าถึงหน้าที่พวกเขาต้องการดูตั้งแต่แรก แน่นอนว่าเจ้าหน้า splash page นั้นทำหน้าที่เหมือนกับสาดน้ำเพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมต้องหยุดดูว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคืออะไร แต่หน้า splash page จะต่างจากหน้า landing page ประเภทอื่นตรงที่มันไม่ได้ต้องการให้ผู้ชม convert มาเป็น lead หรือตัดสินใจซื้อสินค้าในทันที ทว่ามีเป้าหมายเฉพาะที่ต่างออกไป
โดยทั่วไปแล้ว splash page จะทำหน้าที่ประกาศสิ่งต่างๆ ให้ผู้ชมที่เข้ามาได้รับรู้ข้อมูลที่ต้องเว็บนั้นต้องนำเสนอ เช่น กำหนดการจัดงานอีเวนต์ งานประชุม หรืออาจมีเรื่องของโปรโมชันตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อสอบคัดกรองอายุผู้เข้าใช้เว็บ ไปจนถึงให้ผู้ชมเลือกการแสดงภาษาและโลเคชันที่ใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งหน้า landing page ประเภทนี้มักมีข้อมูลเพียงเล็กน้อย เน้นการใช้รูปภาพพื้นหลังเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ใช้ไปต่อยังหน้าที่พวกเขาต้องการได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
4. Landing page แบบ squeeze page
หน้า landing page แบบ squeeze เป็นประเภทของแลนดิ้งเพจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากข้อมูลล่าสุดของ Hubspot โดยมีจุดเด่นที่สามารถบีบอัดข้อมูลที่ตรงประเด็นให้ผู้ชมได้รับรู้โดยทันที ด้วยการบีบหน้าให้สั้นและมีขนาดเล็กลงพร้อมกับใช้ข้อความและรูปภาพเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าหน้า squeeze จะไม่มีปุ่ม CTA ให้คลิกไปต่อ แต่ก็สามารถทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้ผู้ชมอยากที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียกหน้านี้ในชื่อว่า opt-in page ได้เหมือนกัน โดยในหน้านี้มักจะมีการจูงใจให้ผู้ชมกรอกอีเมล เพื่อรับ ebook, คอร์สทดลองเรียนฟรี หรือ ขอรับคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ฟรี ซึ่งเป็นที่นิยมมาก เพราะช่วยให้คุณได้ lead ที่มีคุณภาพและมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นลูกค้าของคุณอีกในอนาคตสูงมาก
5. Landing page แบบ thank you page
การกล่าวแสดงความขอบคุณเป็นมารยาทที่ดีที่ใครๆ ต่างก็ควรทำ ยิ่งเมื่อลูกค้าของคุณได้ทำการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณไปด้วยแล้ว การมีหน้า landing page แบบ thank you page จึงเป็นหน้าที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดีที่ได้อุดหนุนธุรกิจของคุณนั่นเอง
เพียงแค่ทำหน้า thank you page ที่จะแสดงขึ้นมาต่อเมื่อลูกค้าได้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มหรือทำการซื้ออะไรก็ตามจากคุณเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะปรากฏถ้อยคำที่แสดงถึงความขอบคุณพร้อมด้วยการแนะนำข้อเสนอ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพิ่มเติมให้พวกเขาได้รับรู้ โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
เสนอส่วนลดพิเศษเพื่อใช้ในครั้งถัดไป
แนะนำบล็อกที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าได้อ่าน
โปรโมทโซเชียลมีเดียของคุณให้ลูกค้าได้ติดตาม
6. Landing page แบบ long-form page
คุณเคยดูรายการโฆษณาทางทีวีแล้วคิดขึ้นมาในใจว่า “ใครมันจะบ้าจี้ซื้อของแบบนี้?” แต่พอยิ่งคุณฟังไปเรื่อยๆ และได้ข้อมูลมากขึ้น คุณก็กลับตัดสินใจที่จะซื้อแบบงงๆ อาจกล่าวได้ว่านี่คือหน้า long-form page ที่นำเสนอข้อมูลจำนวนมากเพื่อจูงใจให้ลูกค้าคล้อยตามจนตัดสินใจซื้อได้ในที่สุด
Landing page ประเภทนี้นิยมใช้ใน bottom funnel ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่กำลังลังเลว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าและบริการของคุณดี โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจด้วยข้อความที่อธิบายถึงข้อดีได้โดนใจลูกค้า พร้อมทั้งสนับสนุนด้วยวิดีโอแสดงฟีเจอร์เด็ด รวมถึงมีฟีดแบ็กของลูกค้าที่เคยใช้งานมาก่อน และปิดท้ายด้วย CTA ที่กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าและบริการของคุณในทันที
นอกจากนี้ คุณอาจเสริม long-form page ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอส่วนลดพิเศษหากลูกค้าตัดสินใจซื้อในตอนนั้น เพียงเท่านี้ lead ที่เข้ามาในหน้านี้ก็คงห้ามใจตัวเองไม่ไหวที่จะกดคลิกซื้อหรือสมัครเพื่อมาเป็นลูกค้าของคุณแล้ว
7. Landing page แบบ unsubscribe page
คงไม่มีใครอยากให้ลูกค้าหนีหายหรือเลิกใช้สินค้าหรือบริการของตัวเอง แต่ถ้าลูกค้าตัดสินใจแล้วเราก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของพวกเขา นี่คือหน้าที่หลักของหน้า landing page แบบ unsubscribe page ที่จะแสดงถึงความเข้าใจที่ลูกค้าจะไปและให้เหตุผลที่พวกเขาควรอยู่ต่อกับคุณไปพร้อมกัน
หากผู้ใช้คุณกำลังพยายามที่จะยกเลิกการสมัครรับข่าวสารผ่านทางอีเมล คุณอาจเพิ่มตัวเลือกการรับข่าวสารที่มีความถี่น้อยลง เพื่อไม่เป็นการทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าคุณพยายามนำเสนอโปรโมชันใหม่ๆ ให้พวกเขามากเกินไป
ในกรณีของหน้า unsubscribe page ที่เป็นการยกเลิกการสมัครใช้บริการแบบชำระเงิน คุณอาจนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการมอบส่วนลดเพื่อจูงใจให้ลูกค้าเลือกที่จะอยู่กับคุณต่อไป แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะตัดเยื่อใยไม่ใช้บริการของคุณต่อแล้วจริงๆ ก็ลองแนะนำให้พวกเขาติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ เผื่อว่าในอนาคตพวกเขาอยากจะกลับมาหาคุณอีกครั้ง
8. Landing page แบบ coming soon page
ไม่ใช่เรื่องเร็วเกินไปแต่อย่างใดที่คุณจะโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือการเปิดตัวธุรกิจใหม่ที่ใกล้จะมาถึงของคุณ และหน้า landing page แบบ coming soon page เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการทำเช่นนั้น เพราะหน้านี้จะเป็นเหมือนอาหารเรียกน้ำย่อยที่กระตุ้นให้ใครก็ตามที่กำลังสนใจจะรู้สึกสงสัยว่าคุณกำลังจะทำอะไรในเร็วๆ นี้กันแน่
วิธีง่ายๆ แต่ทำ coming soon page แล้วได้ผลดีที่สุดก็คือ ในหน้านั้นให้คุณเขียนข้อความที่แอบบอกใบ้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นและส่งผลดีต่อว่าที่ลูกค้าของคุณในอนาคตอย่างไร พร้อมกับมีช่องให้กรอกอีเมลเพื่อแจ้งเตือนเมื่อถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และจะมีลิงก์ข้อมูลของหน้า landing page ส่งไปให้พร้อมกันในอีเมลดังกล่าว เพียงเท่านี้คุณก็จะได้อีเมลของผู้สนใจจำนวนมากเพื่อทำ email marketing อย่างต่อเนื่องได้แล้ว
9. Landing page แบบ product page
หน้า product page ถือเป็นหนึ่งในหน้า landing page ที่มีความสำคัญมากอีกหน้าหนึ่ง เพราะทำหน้าที่อธิบายอย่างละเอียดให้ผู้ชมเข้าใจว่าสินค้าและบริการของคุณคืออะไร ทำงานอย่างไร มีคุณลักษณะเด่นแบบไหน และสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้ามีได้อย่างไรบ้าง นั่นหมายความถ้าคุณสามารถออกแบบหน้า product page ได้ดีและมีการทำ SEO ที่ครบถ้วนด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสที่คุณจะได้ยอดผู้ชมจากทั้ง direct และ organic ซึ่งมาจาก search engine อย่าง Google
ก่อนที่คุณจะทำตัดสินใจทำ landing page ให้กับผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าและบริการนั้นมีผู้คนค้นหาผ่านทาง search engine มากขนาดไหน โดยการทำ keyword research เพื่อค้นหาว่าคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นมีจำนวนเท่าไรในแต่ละเดือน จากนั้นคุณถึงจะสามารถออกแบบหน้า product page ให้สามารถตอบสนองสิ่งที่ผู้ชมอยากจะรู้และเข้าใจได้อย่างตรงจุด ทั้งในเรื่องรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ จุดเด่น และรูปภาพที่มีความสวยงามคมชัด เพื่อกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด
10. Landing page แบบ event page
หากคุณต้องการจัดงานประชุม อีเวนต์ หรือกิจกรรมที่อยากให้มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก หน้า landing page แบบ event page สามารถช่วยคุณในเรื่องนี้ได้ ด้วยการใส่ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับกิจกรรม วันเวลาจัดงาน สถานที่ รวมถึงวิทยากรรับเชิญที่จะมาแชร์สิ่งดีๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับรู้ นอกจากนี้ ในหน้า event page ยังต้องมีแบบฟอร์มให้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานอีกด้วย เพื่อให้คุณสามารถเก็บข้อมูลและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ สำหรับการจัดกิจกรรมได้เพียงพอต่อจำนวนผู้เข้าร่วมงาน
อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้หน้า event page ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ก็คือการเพิ่มเวลานับถอยหลังจนสิ้นสุดในวันที่จัดกิจกรรม รวมถึงใส่รูปภาพหรือวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในครั้งที่ผ่านมาดีและน่าสนใจขนาดไหน เพราะผู้ที่สนใจจะได้สัมผัสประสบการณ์และรู้สึกว่าไม่อยากจะพลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้
3 ข้อดีของ landing page ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต
หลังจากที่คุณได้เข้าใจแล้วว่า landing page นั้นมีกี่ประเภท ตอนนี้ก็ถึงเวลาสำคัญที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจนี้ มีส่วนช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไรบ้าง โดยจะมีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน
1. สร้าง brand awareness ให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก
การสร้างหน้า landing page ขึ้นมานั้นมีส่วนช่วยในเรื่องการสร้าง brand awareness เป็นอย่างมาก ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของสินค้าและบริการที่คุณมี เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายที่คุณโฟกัสอยากรู้จักแบรนด์ ทำการศึกษาสิ่งที่เกี่ยวข้องแบรนด์ และกลายมาเป็นลูกค้าของคุณในท้ายที่สุด
2. สร้าง conversion ให้คุณมี lead มากขึ้น
จุดประสงค์ของหน้า landing page ที่ชัดเจนที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการสร้าง conversion ให้กับเกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณ อาจจะด้วยการขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อติดต่อกลับทางอีเมล ให้ทดลองใช้ฟรี เพียงกรอกอีเมล หรือเปิดให้ subscribe เพื่อรับข้อมูลข่าวสารดีๆ เหล่านี้ทั้งหมดหากสามารถออกแบบข้อความ ปุ่ม CTA รวมถึงแบบฟอร์มได้ดีและตอบโจทย์แล้ว คุณก็จะได้รับยอด conversion ตามมาเป็นจำนวนมาก
3. สร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากคุณมีหน้า landing page ในแบบ product page, กับ long-form page ที่นำเสนอรายละเอียด จุดเด่น รวมถึงคำชื่นชมจากลูกค้าที่ได้ใช้สินค้าและบริการจริงอย่างครบถ้วนเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกสนใจได้ดีมากๆ แล้ว พวกเขาก็จะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณได้อย่างรวดเร็วในทันที ส่งผลให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ทำ landing page ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของคุณกับ Morphosis
การทำ landing page ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของคุณนั้นมีส่วนช่วยให้เกิด conversion จนได้ lead ใหม่ๆ ที่ตรงกับกลุ่มที่คุณกำลังต้องการ รวมถึงยังสามารถเพิ่มยอดขายในระยะยาวได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการยิงโฆษณาให้ต้องเสียเงินเสมอไป ถ้าคุณคิดอยากจะทำหน้า landing page แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรทำแบบไหน Morphosis เรามีคำตอบดีๆ ให้กับคุณ
Morphosis เราคือดิจิทัล เอเจนซี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์ร่วมงานกับแบรนด์ดังทั้งในไทยและต่างประเทศมาแล้วเป็นจำนวนมาก ทีมของเราสามารถให้ปรึกษาที่เข้าใจถึงปัญหาและความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมด้วยกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ เข้าใจง่าย มีประสิทธิภาพสูง และสามารถวัดผลได้จริง ติดต่อเราตอนนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี