วิธีใช้ AI เขียนบทความอย่างมีประสิทธิภาพ คนเขียนถูกใจ คนอ่านได้ประโยชน์
การใช้ AI เขียนบทความในเว็บไซต์ แจ้งข่าวในอีเมล หรือข้อความสั้นๆ บนโซเชียลมีเดียไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป และอาจเป็นตัวช่วยสำคัญที่คุณจำเป็นต้องมีไว้ใช้เพื่อให้งานเสร็จลุล่วงทันเวลา เพราะเราทุกคนต่างก็รู้ดีว่า AI นั้นช่วยประหยัดเวลาในการคิดและเขียนคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี
แต่หากคุณไม่รู้จักใช้อย่างถูกวิธี คอนเทนต์ที่ได้ก็อาจไม่มีคุณภาพมากพอ ไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร หรือไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก หรือถ้าหนักหน่อยก็อาจทำให้คนอ่านนั้นอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยเฉพาะเมื่อต้องให้ AI เขียนคอนเทนต์ภาษาไทยที่ยาวหรือซับซ้อน เนื่องจากเครื่องมือและฐานข้อมูลที่เป็นภาษาไทยยังมีจำกัด ดังนั้น เราจะมาแนะนำวิธีที่เหมาะสมให้กับคุณเอง
กำหนดกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์
เริ่มจากกำหนดกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ให้แน่ชัดก่อนว่าคนอ่านเป็นใคร และเขียนบทความนี้ไปเพื่ออะไร เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของคุณที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ หลังจากนี้ได้อย่างราบรื่นและบทความที่ AI เขียนออกมามีเนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
หากคุณยังไม่แน่ใจในวัตถุประสงค์ของการทำคอนเทนต์ อาจลองกลับไปทบทวน brand guideline หรือย้อนไปดูว่า value proposition คืออะไร น่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้
ทดสอบและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
ปัจจุบัน มี AI ให้เราเลือกใช้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้มีแค่ Chat GPT เท่านั้น แต่ยังมีอีกเยอะจนเลือกใช้ไม่ถูก เช่น Jasper, Rytr, Copy.ai, Semrush SEO Writing Assistant เป็นต้น ซึ่งผู้เขียนจะไม่ลงรายละเอียดการใช้งาน AI แต่ละตัว เพราะบทความนี้เน้นในส่วนของหลักการที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับเครื่องมือดังกล่าว
AI แต่ละเจ้าก็มีจุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันไป เช่น AI บางตัวเขียนภาษาไทยได้ดี บางตัวไม่รองรับภาษาไทย บางตัวเขียนข้อความยาวๆ ได้สละสลวย เป็นธรรมชาติกว่าตัวอื่น บางตัวมี tone of voice ให้เลือกหลากหลาย บางตัวอาจจะถนัดแต่ข้อความสั้นๆ บางตัวเก่งเรื่องเฉพาะ เช่น การเรียบเรียงคำใหม่จากข้อความเดิม การเขียนคำโฆษณา หรือการเขียนบทความ SEO เป็นต้น นอกจากนี้ความยากง่ายในการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการก็ไม่เท่ากันอีกด้วย
ดังนั้น หากคุณต้องการใช้ AI เขียนคอนเทนต์แบบไหน ก็ต้องลองใช้และทำการทดสอบจนมั่นใจ เช่น ทำ A/B testing เปรียบเทียบความสามารถ AI แต่ละตัว ก่อนนำไปใช้งานจริง และเลือกใช้ให้เหมาะกับงาน
ป้อนคำสั่งที่มีรายละเอียดชัดเจน
prompt หรือคำสั่งที่คุณใช้กำหนดให้ AI สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการนั้นมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน AI ที่สามารถสั่งงานที่มีความซับซ้อนมากๆ ได้อย่าง Chat GPT ซึ่งนอกจากการเรียนรู้วิธีใช้ prompt พื้นฐานแล้ว สิ่งที่คุณต้องพึงระลึกไว้เสมอคือ การอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนและครอบคลุม เพื่อให้ AI เข้าใจคำสั่งของคุณได้ดีขึ้น เขียนข้อความออกมาได้ตรงใจมากที่สุด และมีคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการอยู่ในนั้น
ตรวจทานและปรับแก้ผลลัพธ์ที่ได้
คุณไม่สามารถหวังพึ่ง AI ให้เขียนคอนเทนต์แล้วหวังว่าจะนำทั้งหมดไปใช้ได้เลยในทันที ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะนำคอนเทนต์ไปเผยแพร่ คือการตรวจทานเนื้อหาให้ดีๆ ว่ามีจุดไหนที่ยังขาดตกบกพร่องอยู่ เพื่อให้ใจความครบถ้วน ข้อมูลถูกต้อง และสื่อสารได้ตรงกับแบรนด์ หากละเลยข้อนี้ไป คอนเทนต์ที่ได้ก็อาจให้ข้อมูลผิดพลาด ตกหล่น หรือสื่อสารด้วย tone of voice ที่ไม่สอดคล้องกับแบรนด์
อีกประเด็นที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การปรับแต่งภาษาที่ใช้ให้มีความสละสลวย เป็นธรรมชาติ บางครั้งอาจต้องมีการเปลี่ยนคำ สลับตำแหน่งประโยค หรือแก้ใหม่ทั้งย่อหน้า เพื่อให้คอนเทนต์มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งนี่คือจุดที่คุณต้องนำเอาทักษะการเขียน ความรู้สึก และประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมาใช้ และโปรดจำไว้เสมอว่า AI ไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับมนุษย์
จัดฟอร์แมตให้เรียบร้อย
หากเป็นคอนเทนต์ขนาดยาวอย่างบทความ การจัดฟอร์แมตคือสิ่งจำเป็น เพราะ AI มักจะทำฟอร์แมตมาให้แบบคร่าวๆ เช่น หัวข้อ หรือ bullet point ซึ่งยังไม่พร้อมที่จะใช้งานจริงได้ทันที ต้องใส่ heading แล้วจัดลำดับ heading เป็น H1, H2, H3 รวมถึงกำหนดการแสดงผลตัวอักษรเป็นตัวหนา ตัวเอน ขีดเส้นใต้ ตรงข้อความที่ต้องการเน้น และเว้นวรรค จัดย่อหน้าใหม่ ให้เรียบร้อย แล้วจึงนำไปเผยแพร่
ดูผลตอบรับและประเมินผล
หลังจากที่ปล่อยคอนเทนต์ออกไปแล้ว การดูผลตอบรับทั้งจาก Google Analytics และเครื่องมือ SEO ต่างๆ รวมถึงคอมเมนต์ที่ได้จากทีมงานด้วยกันเอง ไปจนถึง conversion rate ที่ได้จากกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้คุณรู้ได้ว่า AI เขียนบทความได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะในตอนเริ่มใช้งานใหม่ๆ
เมื่อวิเคราะห์และประเมินผลเรียบร้อยแล้ว คุณอาจได้คำตอบว่า AI ที่ใช้มีประสิทธิภาพดีแค่ไหนเมื่อต้องลุยงานจริง เหมาะสมกับงานประเภทดังกล่าวหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วอาจเป็นคุณเองที่ต้องเรียนรู้และปรับวิธีการใช้งานมันให้ดีขึ้น
ติดตามข่าวสาร
AI มักจะมีอัปเดตจากทีมผู้พัฒนาอย่างสม่ำเสมอ อย่าลืมติดตามดูว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ หรือปรับเปลี่ยนการใช้งานอย่างไรบ้าง เพื่อให้รีดประสิทธิภาพของมันออกมาให้ได้มากที่สุด และรู้เท่าทันถึงช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากการอัปเดตแต่ละครั้งด้วย
ปรึกษา Morphosis เพื่อคอนเทนต์ที่ดียิ่งกว่า
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่า AI จะฉลาดแค่ไหน มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ ขาดชีวิตจิตใจ ความรู้ และประสบการณ์หลายๆ อย่างในแบบที่มนุษย์เท่านั้นถึงจะทำได้ ดังนั้น หากคุณต้องการคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ติดต่อเราเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์ของเราได้เลย